Page 53 -
P. 53
ื
ิ
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ิ
์
ิ
ิ
2-16
ยุคพรีแคมเบรียนและหินปูนยุคเพอรเมียนแบบรอยเลื่อนสัมผัส หินทั้งสองแนวนี้ไมอาจระบุอายุที่แนนอนได
เนองจากพบวามีหินบางสวนวางตวอยใตชนหินปูนยคเพอรเมียน เชน ที่เขาเรวด บริเวณอางเก็บนา
ู
ี
้ํ
ื่
ั
ั้
ุ
ุ
บางพระ จังหวัดชลบุรี และที่บริเวณอําเภอแกลง จังหวัดระยอง ดังนั้นอายุของหินเหลานี้อาจมีอายลงไป
ถึงชวงยุคคารบอนิเฟอรัส
ิ
หินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนบน ในหินยุคคารบอนเฟอรัส ไมพบซากดึกดําบรรพที่บอกอายุได
แนนอน ดังนั้นอายุหินสวนหนึ่งอาจจะคาบเกี่ยวลงไปถึงยุคดีโวเนียนตอนปลาย หรือขึ้นไปถงยุคเพอร
ึ
เมียนตอนตนก็ได หินยุคคารบอนิเฟอรัสมีอยู 3 แนวคือ (1) แนวชลบุรี -สัตหีบ (2) แนวพนัสนิคม-แกลง
และ (3) แนวกบินทรบุรี-สระแกว-จันทบุรี-ตราด
(1) แนวชลบุรี-สัตหีบ อยทางตะวนตกของหินไนสชลบุรี วางตวตอเนองมาจาก
ั
ู
ั
ื่
หินดินดานสัตหีบขึ้นไปจนถึงหินปูนและหินดินดานที่อางเก็บน้ําบางพระ ยุคเพอรเมียนตอนกลาง
(2) แนวพนสนคม-แกลง แยกจากแนวชลบุรีโดยหินพื้นฐานซับซอน หรือกลุมหินไนส
ิ
ั
ื
ิ
หินไมกาชีสต คั่นระหวางกลางของแนวที่สอง ที่บริเวณตอนเหนอของเขาใหญ หินดนดาน และหินทราย
มีแนวเรียงตัวสีเทาดํา หินปูนเปนรูปเลนสและหินเชิรต มีแนววางตัวในทิศตะวันตกเฉยงเหนอ-ตะวนออก
ื
ั
ี
เฉียงใต พบซากดึกดําบรรพไบรโอซัว (bryozoa) ชื่อ Penniretepora sp., Fenestella cf.F. triserialis,
Fenestella sp., Polypora sp., และแบรคิโอพอด ชื่อ Cleiothyridina sp. รวมทั้งซากดึกดําบรรพกาน
ุ
ิ
ไครนอยด (crinoid stem) ยคคารบอนเฟอรัสตอนตน (สมัย Early Visean-Late Tournaisian)
ั
ั
(3) แนวจันทบุรี-ตราด บริเวณตะวนออกของฝงทะเลตะวนออกในเขตระหวางจังหวด
ั
สระแกว-โปงนารอน-จันทบุรี ใกลชายแดนประเทศกัมพูชา มีแนวของหินแอมฟโบไลตชสต หินฮอรน
ี
้ํ
เบลนดชีสต หินควอรตซชีสต และหินทัฟฟแปรสภาพ หินออนรูปเลนส หินเมตาเชิรต (เรดโอลาเรียน-เชรต)
ิ
ิ
และหินฟลไลตสีแดง พบซากดึกดําบรรพยุคเพอรเมียนในหินปูน บริเวณจังหวัดสระแกว หินยุคเพอรเมียน
แบงออกไดเปน 3 แนว คลายกับหินยุคคารบอนิเฟอรัส ไดแก แนวชลบุรี-สัตหีบ ที่เขาเรวดีใกลอางเก็บน้ํา
ิ
ิ
ั้
บางพระ ประกอบดวยชนของหินทราย หินดนดาน หินปูนและมีหินเชรตชนบางแทรกสลับ ในหินปูน
ั้
มีซากดึกดําบรรพ Pseudoschwagerina cf. P. regularis ฟอแรมินเฟอรา และสาหราย ยคเพอรเมียน
ิ
ุ
ตอนกลาง แนวพนสนคม-แกลง ในหินดนดานที่เขาอีพริ้ง มีซากดกดาบรรพ Leptodus sp. ยคเพอร
ั
ํ
ึ
ุ
ิ
ิ
ั
ี้
ิ
เมียนตอนปลาย สําหรับแนวชลบุรี-สัตหีบ และพนสนคม-แกลง ทั้งสองแนวนเรียกรวมกันวา แนวศรี
ราชา-แกลง แนวจันทบุรี-สระแกว แบงไดเปน 2 ตอน คอ ทางดานจังหวดสระแกว-อรัญประเทศ
ั
ื
ิ
และกบินทรบุรี-โปงน้ํารอน-จันทบุรี-ตราด เปนบริเวณที่ชั้นหินวางตัวกันซับซอนเพราะเปนเขตธรณวทยา
ี
ึ
ิ
ิ
ํ
ู
สัณฐานประกอบดวย หินเชรตที่มีซากดกดาบรรพเรดโอลาเรีย หินปูน หินทราย หินภเขาไฟและหิน
บะซอลตรูปหมอน วางตัวอยูบนหินอัลตราเมฟก กลุมหินทั้งหมดเรียกรวมกันวา สระแกวโอฟโอไลต
้ํ
หินมหายุคมีโซโซอิก ประกอบไปดวยหมวดหินเนินโพธิ์ยุคไทรแอสซิกและหมวดหินโปงนารอน
ั
ื่
ื่
และหมวดหินเนนผูใหญเยอ ซึ่งเชอวาสะสมตวในสภาวะแวดลอมตะกอนนาพารูปพัดใตทะเล
้ํ
ิ
ั
(submarine fans) ของกระแสน้ําโบราณที่ไหลจาก ทิศตะวนออกไปทางทิศตะวนตก และในหมวดหิน
ั
แหลมสิงห หมวดหินภูกระดึง และหมวดหินพระวิหาร ประกอบดวยชั้นหินสีแดงซึ่งเชื่อวามีภาวะแวดลอม
ั
้ํ
การสะสมตะกอนแบบตะกอนแมน้ําบนบก โดยมีทิศทางการไหลของกระแสนาโบราณจากทิศตะวนออก
ไปทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงใตและทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตามลําดับ
ี
ั
หินอคนบริเวณภาคตะวันออกแบงไดเปน 3 แนว
ั
แนวแรกอยทางดานตะวนตกของภาค ปกคลุมพื้นที่ทางดานทิศตะวนออกเฉยงใตของจังหวด
ี
ั
ู
ั
ชลบุรีลงมายังจังหวัดระยอง เปนหินแกรนิตมวลไพศาล เนื้อหินหยาบปานกลางถึงเนื้อดอก