Page 112 -
P. 112

ิ
                            ื
                                                                  ิ
                                          ิ
                                                                              ิ
                                             ์
            โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                                           97

               ปลูกมะนาว ประมาณ 200 ต้น รายได้ประมาณ 20,000 บาทต่อปี ส่งขายเองตามตลาดและร้านค้าบริเวณ
               ใกล้เคียง นอกจากนี้ยังปลูกไม้ผลยืนต้นและพืชผักสวนครัวอย่างอื่น เช่น มะม่วง ขนุน  ทุเรียน (ยังไม่ได้

               ผลผลิต) กระท้อน มะยงชิด มะเขือ พริก ผังปลัง เป็นต้น โดยมีการแปรรูปมะม่วงกวนส่งขายเองตามตลาดและ

               ร้านค้าบริเวณใกล้เคียง องค์ความรู้และวิธีการทำการเกษตรหรือการแปรรูปผลิตทางการเกษตรผู้ให้สัมภาษณ ์
               เป็นผู้ศึกษาและลองผิดลองถูกเองโดยไม่มีหน่วยงานใดมาแนะนำหรือให้ความช่วยเหลือด้านการตลาด เพียงแต่

               มาแจกกล้าไม้เท่านั้น เมื่อสอบถามถึงศักยภาพของคนในชุมชนในการรวมกลุ่ม ผู้ให้สัมภาษณ์มีความเห็นว่า

               เป็นไปได้ยากเนื่องจากคนในชุมชนมีหลายประเภท บางคนไม่ขยันขันแข็งรอเพียงความช่วยเหลือจากรัฐบาล
               และเกิดปัญหาการลักเล็กขโมยน้อยพืชผลทางการเกษตรบ่อยครั้ง

                       นอกจากนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ยังมีรายได้เสริมในการเป็นนายหน้าค้าขายที่ดินแต่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพขึ้นอยู่
               กับจะมีใครต้องการซื้อขายเท่านั้น (ผู้ให้สัมภาษณ์ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมอก)
                                                                               ี
                       ความคิดเห็นที่มีต่อโครงการ คทช. เป็นโครงการที่ดี ทำให้มีสิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมายในการทำ

               ประโยชน์ในที่ดิน เมื่อมีการตรวจสอบรังวัดที่ดิน พบว่ามีพื้นที่บางส่วนของตนที่รุกล้ำพื้นที่ป่า จึงทำให้ต้องสละ
               ที่ดินออกบางส่วนซึ่งตนก็ไม่ได้ขัดข้อง เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีการจัดทำหลักเขตและสร้างรั้วอย่าง

               ชัดเจนเพราะตนและชาวบ้านก็ไม่มีเจตนาที่จะรุกล้ำเพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ทราบว่าแน่ชัดว่าแนวเขตอยู่ตรงไหน


                       กรณีตัวอย่างที่ 2

                       ผู้ให้สัมภาษณ์เป็นเพศชาย อายุ 68 ปี ได้รับจัดที่ดินจำนวน 1 แปลง ใช้เพื่อการอยู่อาศัยและทำ
               การเกษตร เนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 6 ตาราง ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก มีผู้อยู่อาศัยร่วมกันในบ้านจำนวน

               7 คน โดยลูก ๆ มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท พื้นที่ทางการเกษตรใช้สำหรับการปลูกไม้ผลยืนต้น เช่น มะม่วง

               มะยงชิด เป็นต้น แต่มีพอกินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังเลี้ยงควาย 1 ตัว และเลี้ยงไก่ไว้ขาย
                       ผู้ให้สัมภาษณ์ได้เล่าถึงประสบการณ์ในการทำการเกษตรในอดีตว่า สมัยก่อนในพื้นที่มีการปลูกผักและ

               พืชไร่ และหน่วยงานของรัฐมาช่วยส่งเสริมในการรวบรวมผลผลิตส่งขายสู่ตลาดซึ่งขณะนั้นมีรายได้ดีมาก แต่
               เนื่องจากปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำทำให้ผลผลิตภายในหมู่บ้านไม่เพียงพอต่อการรวบรวมและส่งขายไม่ทัน

               ต่อความต้องการของตลาดโครงการดังกล่าวจึงต้องล้มเลิกไปซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย ในระยะต่อมา ได้มีการ

               ทดลองทำการเกษตรอย่างอื่นหลายอย่าง เช่น มีผู้มาขายเชื้อเห็ดและรับว่าจะมารับซื้อผลผลิต จึงตัดสินใจยืม
               เงินคนในหมู่บ้านเพื่อลงทุนซื้อเชื้อเห็ดและลงทุนทำโรงเรือนแต่ปรากฎว่าไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องปล่อย

               ที่ดินที่นำไว้เป็นประกันหลุดมือไป ผู้ให้สัมภาษณ์ยังเล่าให้ฟังอีกว่าได้ตัดสินใจลงทุนทำการเกษตรมาหลาย
               อย่างแต่ไม่ประสบความสำเร็จทำให้ที่ดินที่นำไปเป็นประกันเงินกู้ให้คนที่หยิบยืมเงินมานั้นค่อย ๆ ลดลงเรื่อย

               ๆ ปัจจุบันยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอยู่จึงหันมาปลูกพืชยืนต้นแทน ซึ่งผลผลิตก็ไม่เพียงพอต่อการ

               ขายเป็นอาชีพ
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117