Page 29 -
P. 29

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






               จํากัดความสั้น ๆ ของระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร คือ “ระบบการจัดการฐานขอมูลขาวสารที่

               สามารถอางอิงตําแหนงบนโลกได”


               วิธีการจําลองขอมูลและขาวสารในโลกแหงความเปนจริงดวยระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตรจะมีการ

               จัดจําลองขอมูลขาวสารในรูปแบบของตัวแทนขอมูลเชิงพื้นที่ หรือวัตถุเชิงพื้นที่ ซึ่งมีการเชื่อมโยงดวย
               ขอมูลที่อธิบายถึงขอมูลขาวสารที่สัมพันธกับขอมูลเชิงพื้นที่นั้น ๆ หรือเรียกวาขอมูลอรรถาธิบาย ดังนั้น

               ขอมูลสารสนเทศทางภูมิศาสตรโดยทั่วไปจะเปนการกลาวถึงขอมูลเชิงพื้นที่ หรือวัตถุเชิงพื้นที่  การ

               จําแนกตัวแทนของวัตถุเชิงพื้นที่ ซึ่งแบงตามลักษณะการถายทอด/มุมมอง ไวเปนสองประเภทคือ “Field
               View” หมายถึงมุมมองในรูปของแรสเตอร และ “Object View” หมายถึงมุมมองในรูปของวัตถุหรือรูป

               ของเวกเตอร


               ในบทนี้ยังไดกลาวถึง นิยามศัพท/แนวคิดเกี่ยวกับสารสนเทศทางภูมิศาสตร ที่จําเปนเชน

                       - มาตราสวน หมายถึง อัตราสวนระหวางระทางที่แทนอยูบนแผนที่ตอระยะทางจริงบนผิวโลก

               สามารถแบงไดเปน 2 รูปแบบคือ มาตราสวนขนาดเล็ก และ มาตราสวนขนาดใหญ

                       - Pixel resolution หมายถึง ความละเอียดของจุดเซลลบนภาพที่สามารถจําแนกวัตถุออกจาก
               กันได

                       - MMU คือ หนวยที่เล็กที่สุดของแผนที่ หมายถึงขนาดของวัตถุที่เล็กที่สุดในแผนที่ที่สามารถ

               จําแนกวัตถุได
                       - Detectability Distance หมายถึง ความสามารถในการตรวจวัดระยะบนแผนที่ หรือ คาความ

               ละเอียดที่สามารถวัดไดบนแผนที่


               การผลิตแผนที่ใหมีความเหมาะสมกับการใชงานควรจะพิจารณาถึงวิธีการหามาตราสวนที่เหมาะสมซึ่ง

               ถือวาเปนเรื่องที่สําคัญมากโดยจะพิจารณาจากขนาดของวัตถุจริงที่เล็กที่สุดที่จะสามารถบรรจุไดใน

               แผนที่ สวนวิธีการคํานวณหาคามาตราสวนที่เหมาะสมไดบรรจุเนื้อหาในบทนี้ดวย


               นักวางแผนสามารถใชศักยภาพของ GIS เปนเครื่องมือในการตอบคําถามตาง ๆ ไดเชน ใชตอบคําถาม

               วา


                       - “มีอะไรอยูที่นั่น” (What is at….?)


                       - “สิ่งนั้นอยูตรงไหนบาง” (Where is it….?)


                       -“ในชวงเวลาที่ผานมาถึงปจจุบันมีอะไรเปลี่ยนแปลงบาง” (What has changed since …?)



                                                          -20-
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34