Page 104 -
P. 104
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
102 Thai J. For. 31 (1) : 87-104 (2012)
หลายของชนิดพันธุไม พบวา มีจํานวนพันธุไมที่นําไป เหนือธรรมชาติมีจํานวนชนิดที่นอยที่สุดนั้น มีความ
ใชประโยชนในดานความสัมพันธกับสภาพแวดลอม คลายคลึงกับการใชประโยชนเพื่อตนเอง กลาวคือ ตอง
มากที่สุด ซึ่งมีจํานวนชนิดพันธุที่เปนไมพุม ไมลมลุก อาศัยระยะเวลาในการปรับตัวใหเขากัน สวนที่แตก
และไมตน ในขณะที่การใชประโยชนจากความหลาก ตางกันคือตองอาศัยความเชื่อเพื่อเชื่อมโยงคนเขาดวย
หลายของพันธุไมในชีวิตประจําวันของแตละคน พบ กัน โดยเลือกเอาพันธุไมที่เหมาะสมมาเปนสัญลักษณ
วา มีจํานวนชนิดของไมตนมากที่สุด แสดงใหเห็นวาใน จํานวนชนิดพันธุที่ใชจึงมีไมมากนัก แตก็มีสวนสําคัญ
ปจจุบันชุมชนมีการใหความสําคัญกับสภาพแวดลอม ในการชวยยึดเหนี่ยวผูคนเขาไวดวยกันในสภาพแวดลอม
ความเปนอยู ซึ่งอาจสะทอนใหเห็นถึงการใหความ หนึ่งๆ
สําคัญกับถิ่นที่อยูอาศัยและการอยูรวมกันของคนใน เมื่อพิจารณาเฉพาะในสวนของวิสัยพันธุไม
ชุมชน โดยใชประโยชนจากความหลากหลายทาง แลว พบวาไมตนและไมตนขนาดเล็กอยูในสถานภาพที่
ชีวภาพมาชวยปรับปรุงสภาพแวดลอมใหนาอยูอาศัย นาเปนกังวลมากที่สุด เนื่องจากวาชุมชนมอญมักอาศัย
ทั้งนี้สวนหนึ่งเปนพันธุไมตามสมัยนิยมที่สามารถรับ อยูเกาะกลุมรวมกันจึงทําใหมีขนาดพื้นที่คอนขางจํากัด
เขามาปลูกไดในพื้นที่ดวย สวนการใชประโยชนจาก และไมสามารถเคลื่อนยายขยายพื้นที่ดังเชนในอดีตได
ความหลากหลายของพันธุไมเพื่อตนเองนั้น มีจํานวน อีกทั้งบริเวณที่ตั้งถิ่นฐานมักประสบปญหาสภาวะนํ้า
ชนิดที่นอยกวาการใชเพื่อสภาพแวดลอมประมาณ ทวมในฤดูฝน การปลูกตนไมสวนใหญจึงนิยมปลูก
เทาตัว ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากสาเหตุสําคัญสองประการ ตนไมลงในกระถางเพื่อสะดวกตอการเคลื่อนยาย และ
กลาวคือ การใชประโยชนจากพันธุพืชเพื่อตนเองนั้น ยังสัมพันธกับความชํานาญในการทําเครื่องปนดินเผา
มีการเปลี่ยนแปลงนอยหรือเปนไปอยางชาๆ อาศัย ของชาวมอญอีกดวย รวมทั้งการเจริญเติบโตของไม
ประสบการณการเรียนรู ซึ่งตองมีกระบวนการที่ทําซํ้าๆ ตนตองใชระยะเวลา ซึ่งหากตนเกาลดจํานวนลงไป
กัน และตองมีความสอดคลองกับสภาพของระบบนิเวศ เรื่อยๆ โดยไมมีการปลูกตนไมใหมเพิ่มขึ้นทดแทน ไม
ไดเปนอยางดี จนเกิดเปนภูมิปญญาหรือวัฒนธรรมใน ตนอาจตองกลายเปนของหายากไป โดยเฉพาะในสวน
การดํารงชีวิต ทั้งในดานอาหาร อาชีพ และการรักษา ที่สัมพันธกับอํานาจเหนือธรรมชาติซึ่งถาหากลดนอยลง
โรค ดังนั้นความมากนอยของจํานวนชนิดพันธุจึงไม ไป ยอมกระทบไปถึงความสัมพันธที่เคยมีอยูของผูคน
สามารถบอกไดวาปริมาณเทาไหนถึงจะดีกวากัน ซึ่งนา ที่อาศัยอยูในพื้นที่
จะขึ้นอยูกับความสัมพันธของชนิดพันธุ สภาพแวดลอม
และคนมากกวา สรุป
ประการถัดมา คือหากใหความสําคัญ
กับความมากนอยของจํานวนชนิดพันธุไม การใช อารยธรรมมอญเกิดขึ้นจากการปรับตัวใหเขา
ประโยชนเพื่อตนเองมีนอยนั้น อาจเปนไปไดวามี กับสภาพแวดลอมของพื้นที่ชุมนํ้าในลุมนํ้าอิระวดี ลุมนํ้า
ภาวะการพึ่งที่ลดนอยลง เปนผลเนื่องจากการพึ่งพิง เจาพระยา ลุมนํ้าแมกลอง และลุมนํ้าปง มีลักษณะเปน
ประโยชนจากภายนอกที่เพิ่มขึ้น ทั้งในดานอาหาร พื้นที่ราบลุม นํ้าทวมถึงในฤดูนํ้าหลาก รวมทั้งบริเวณ
อาชีพ และการรักษาโรค สวนการปรับปรุงสภาพ ปากแมนํ้าที่มีระบบนิเวศแบบนํ้ากรอย มีพัฒนาการ
แวดลอมนั้นบางสวนก็เปนการนําเขาพันธุไมจาก มานานนับพันปและอาจถือไดวากลุมชาติพันธุมอญ
ภายนอกเขามา ที่อาศัยอยูในระบบนิเวศวิทยาแบบพื้นที่ชุมนํ้านั้นได
สําหรับความสัมพันธของพันธุไมกับสิ่งที่ รับเอาอารยธรรมอินเดียและพุทธศาสนานํามาปรับใช