Page 141 -
P. 141

113
                                          บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท

     จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
                                                                            113
     ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต

     จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
                              1
                                  =

                                             2
                                       a + a + 2a a r
                                             2
                                        1
                                                   1 2 g 1 g 2
     ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
                              1
                                  =
                                        2
                                             2
                                       a + a + 0
                                                                                113
                                                                                               113
                                             บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
                                                             บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
                             1
                                  =

                                             2
                              1
                                       a + a + 2a a r
                                  =
                                       2a
                                          2
                                             2
                                        1
                                                   1 2 g 1 g 2


                             1
                                  =
                                       a + a + 0
                                        2
                                             2
                        จะสำมำรถหำค่ำ a
         จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1   ได้จำกกฎข้อที่ 1
                                       √ =  จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
                                              1
                                  =
                              a
                             1
                                  =
                                       2a
                                             √2
         ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
                        ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต

                                                                     = F  เป็นค่ำ
                                                1
                                             1
                                 1  =
                             a
                                                     =
                                            2
 3.  Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g  และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r 2
                                                2
                                                           2
                                    1 =  √ =  จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
                                                               a +
                                                                 g 1 g 2 2a a r
                                          2  a + a + 2a a r a +
                                                 2
                                            1
                                                           1
                                                                2
                                                                      1 2 g 1 g 2
                                                      1 2 g 1 g 2
                                             √2
                                         2
    อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
                                 1
                                                1

                                      =
                                           a + a + 0   =
                                                          a + a + 0
                                                2
                                                                2
                                            2
                                                           2
                                                                    = F  เป็นค่ำ
                                    1
                                           2a    1
 3.  Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g  และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r
                                 1
                                          2
                                      =
                                                     =
                                                          2a
                                                            2
                                             2
                                                                g 1 g 2
    อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
                                           √ =  จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
                                                          √ =  จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์
                                                 1
                                      =
                                                                1
                                                            1
                                             1
                                                     =
                                 a
                                                a
                                                 √2
                                                                √2
                                                            2
                                             2
                                                                            113
                                          บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท



                                       1
                                              2
                   3.  Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g  และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r
    3.  Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g  และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r
                                                       1
                                                             2
                                                                    g 1 g 2
     จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
        อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
                       อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
     ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
                             1
                                  =
                                        1นิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                     โครงการหนังสืออิเล็กทรอ 2 2 1 1 2 2 บทที่ 3 กำรวิเครำะห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท = F  เป็นค่ำ        g 1 g 2    = F  เป็นค่ำ

                                             2
                                        2
                                       a + a + 2a a r
                                             2
                                                   1 2 g 1 g 2
                                     134
                             1
                     134   พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์         134 ห์สัมประสิทธิ์ค่ำบำท  134   113      พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์   134
                      134
                                                       บทที่ 3 กำรวิเครำะ
                                  =
                                        2
                            พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
                                       a + a + 0
                                                                                พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
                                             2
           134        พันธุศาสตร์ประชากร 2    =  =  (a′b′) m  2a     2 2 2  = +(a′b′)  2  2 2 2 2  (a′b′) + (a′b′) + (a′b′) m + (a′b′) m m =  (a′b′)  (a′b′) + (a′b′)  2  2 2 2 2  (a′b′) +  2  =   2 2 2     2  2  m +  (a′b′)  2    =   m
                             1
                                         2
                     สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์
                      2 จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
                                   =
                        m
                         m  +(a′b′) m
                                        (a′b′) + (a′b′) + (a′b′) m + (a′b′) m   m+ (a′b′) m
                                        m+ (a′b′) + (a′b′) + (a′b′) m + (a′b′) m  (a′b′) +(a′b′)m+(a′b′)m
                                         2
                                  2
                                             1
                                  =
                                         1
                             a
                  ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
                                          ,  ,
                                                         , ,
                                                                    , ,
                                                               ,
                                                                          ,
                                                 , ,
                          m

                                                     2
                                                                       2
                                                            2

                                 = =  m  =
                                                                              2(a′b′) m
                                        2(a b ) + 2(a′b′) m = )m + 2(a′b′) m
                                             2 √2 2 2 2
                                                                 ′
                                                        2
                                                         2 ′ ′ 2 ′2
                                                    ′ ′ 2
     จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1      √ =  จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์   ′ ′ 2    2(a b ) +  =
                                                                        2
                                         2 ′ ′
                                                                       2
                                           ′ ′
                                       2
                                        (a b ) + (a b ) + (a b ) m + (a b ) m m = 2(ab)+2(a′b′) 2(a b )
                                                       2(a b ) + 2(a′b′) = 2(ab)+2(a′b′
                                          1  , ,  2  2 =   a , ,  2 ,
                                                     2


                                                       2  + a + 2a a r
                                   =
     ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
                                                  =
                                 =  =
 3.  Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g  และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r + b m )  m =  +bm)  b m )   2  ′ 2 ′ 2  1 2   2  2a′ (b  = F  เป็นค่ำ +bm)  ′  ′  =   ′ 2  ′ 2  m   2  2a′ (b  =   m
                            m
                                        m
                                              ′ 2
                        m
                                                    ′ 2 ′ ′ 21
                                              ′
                                                       ′ ′ 2 ′
                                        2(a b ) + 2(a b ) m 22′ 22 2
                                                                 2
                                           2′
                                        ′
                                                                  ′ 2 g 1 g 2
                                        2a′ (b + b m ) 2a′ (b2a′(b+bm )  2a′ (b +
                                    1
                                          2
                                                                g 1 g
                                           2 1  ,
                                          ,
                                                   ,
                                                     2 ,
                                              2  =
                                                   2  a + a + 0
                                 =
                          m


     จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
                              1
    อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient  a + a + 2a a r  ′ 2 2      =   2  ′  F  =   จากสูตร m′          2  ′  F  จากสูตร m′   =   จากสูตร m′
                   จากสูตร m′
                                         ′ ′
                                                      ′
                                   จากสูตร m′
                                  =
                                  =  =
                    จากสูตร m′
                                        2 F F
                                        2a  (b  + b  m )FF


                                             2
                                        1 2 2 ,
                                         F1
                                             2
                                                  =  2
                                                   1 2 g 1 g 2
                                         ′ ′
                                               =
                                                                   ′
                                                      ′
                                                        ′
                           ,
                                                    2a
     ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต   F′      2  ′  b  m′b′  =   F′
                                                                    b
                                                       bb 2
                                        b b
                                 =
                          m
           จากสูตร
                              1
                        F′
                                                                         =
                                        2 ,
                                  =  =
                                           2 + a + 2a a F   m′b′    =
                                                  =
                                        F′
                         F′
                                                   1 2 m′b′
                                                                       F′  m′b′
                                       a m′b′
                                         b
                                             2
                                                           2
                                            2 2
                                                                2
                                                   2
                                   =  m′b′
                           ,
                             1
                                        2 ,
                   แทนค่า
                                                      1
                                               =
                                                          1
                    แทนค่า  F  1      =   a +  2 , 2 a + 2a a r =  จะเป็นอิทธิพลของแต่ละเซลล์สืบพันธุ์      แทนค่า
                                                                                        แทนค่า

                                          2 a
                                   แทนค่า



                                        1
                                                                            แทนค่า


                                                    √
                                 =  =
                                        m b  2
                                                   1 2 g 1 g 2
                                       2a + 2a a F   2    √2
                                                1 2
                             1
                        m
           แทนค่า
                         m

                                        m
                                                                                   m  + F′)
                                          2 + a + 2a a F   2a′ (b + F′) 2a′(b+F′)  (b + F′)
                              1
                                        2
                                       a2a′ (b + F′)
                                             2 ′ 2 2 2
                                  =
                                  =  =
                                                                                 ′ 2
                                                  =
                                                                                     2
                                           2 2
                                              ′
                                                 ′
                        จะสำมำรถหำค่ำ a
         จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1   ได้จำกกฎข้อที่ 1   2  2  =   ′ 2 ′ 2  2  m  2a′ (b + F′)   =   = F  เป็นค่ำ  =   m
                                  =
                                                                                        2a′ (b
                                        2a′
                                       2a (1 + F)
                                                  1 2
                                                                            จาก
                   จาก
                    จาก


                                   จาก
                                                  ,
                                          ,
                                             ,
                             1

                                         2

                                                       2
             3.  Correlated causes กล่ำวถึงในกรณีที่ g  และ g มีควำมสัมพันธ์กัน นั่นคือ r
                                              2   1

                          m

                                           2
                                 =  =
                                        2a  (b  + F ) F
         ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต      จาก       จาก
                        ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
                                                                             g 1 g 2
                                       2a + 2a a
                                          1
                                               1 2

                                  =
                 อัตรำเลือดชิด หรือ inbreeding coefficient
                             a
                              2
           จาก           a′   1   1 =  √ 2  a + a + 2a a r a +         1     =   = √√  2 1 =       a + 2a a r =  a′  √        1  a′   √  =   a′
                                       2(1+F)
                                  =
                                  =
                                            2+ F)
                                                               1
                                            1 1
                                                   1
                                       2a (1
                         a′
                                      = √ a′
                                                2
                                                                2
                                           11
                                            1
                                               ′ ′
                                                           1
                                                         2(1+F )F)
                                          2(1+F )) )
                          a  ,  a   =  =   √1 2(1+F   ,  2 ′  2(1+F  1 2 g 1 g 2 ′′  2  2(1+  1 2 g 1 g 2  ′  2(1+F )
                             2
                            a    1  =   =   2(1+F)    1   =  1 2  2  2  1 2
                                            2
                                          2(1+F ) a + 2a a F   a + a + 2a a F
                                                2
                                           a +
                                                  ′′
                                             ′′
                                          1+F
                                         1+F
                        b′       1  =   2(1+F) ′′     =   1+F  √√  1+F ′′     =        ′′  1+F  b′  √  =   ′′  b′       1+F  √  =   b′
                         b′

                                        √ b′
                                            ,,
                                   =  √
                                                1
                                      =
                                           1 1+F
                                                   1 2 =
                          b     ,  a  134  =  พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ สตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์   2 2a + 2a a F   2a + 2a a F    พันธุศา  134   2
                                 =
                                                            2
                                             2
                                            2 2
                                                    2
                                                                2
                                                           2

                                                                  1 2
                                       √
                    แทนค่า


                                                            2
           แทนค่า   แทนค่า       1    แทนค่า      2(1+F) 2  1       2a (1 + F)       แทนค่า           แทนค่า      แทนค่า
                                           2a (1 + F)   =
                                      =
                                                 ′ ,
                                              2 ′ ,
                        m       a   =   =  2a′ 2 ′ 2 , 2 1 ′ 2 2 2  2  2 (a′b′) + (a′b′) + (a′b′) m + (a′b′) m m = a′b′) + =   2a′  ′  2  1 + F ) 2a′(b + F )  2 2  ′ 2 ′ 2  (  2     2  ′  m   =  2  ′  ′ 2  m  + F )   2  2a′ (b 2  =   m
                                                    ′ 2 ′
                                        2a′ (b + F )  2a′ (b=
                                        m  )  (b + F )
                          m  m
                                                  =  (b + F
                                   =  2
                         m  2
                                        2a  (b  + F ) (a′b′)
                                            = +(a′b′)
                                 =  2 m  m+(a′b′)
                                                   a
                                           2(1+F)         2(1+F)
                               2           2 2  ′′ = ) m   2  2(a b ) + 2(a′b′)2(ab)+2(a′b′  ′ 2 2 2 ′ 2 ′2  2  ′  2  ′′ m =  ,,  2 2 2 2 2  ,  2  2
                                                              1 1+F
                            + F′]    )  ′′  =  a =  [(√ =   = 2 (√ )+F′]    2                  x                 + F  F′]  2 (√ =  )×[(√ 1 a  ) =  (√) × [(√+F′]      2  √  1+F11 1+F )  ′′′′     ) +) × [(√   1+F ′′ ) + F′]   2(√     =
                                                                                1
                                                                    1+F
                                               11 11 1+F
                                   1+F

                                                   ,
                                                                         =  F′]  × [(√
                                                     =  × [(√
                                                                    2 (√ ) +
                                                                            )
                                           √) ×2 (√
                                                 ′
                                                            2(1 2 2
                                  m         = )  2+(1+F ) 2′ 2 2a′ (b + b m )  =   m
                                                              2 2+F )2(1+F ) 2 ′ 2
     จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1   2   2(1+F) ′′ 2(1+F )2(1+F) 2 2(1+F )  ′  ′  2  2(1+F) ′  2 ′  2 )  ′  2(1+F
                                               ′
                                                            ′
                                                              2a′ (b + b m
                                                               ,
                                                          ,,
     ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต
                                                      1+F + 2F
                            จากสูตร m′   ′′  2 x =   1 F ′  ′′ ,  ′′ ′′     ′  ′ ′ F  ′  1+F +2F 1+F+2F =   ′′  ′′  ′  จากสูตร m′
                                                      x
                                               ′
                                 =  ′
                                                     1+F +2F 111+F +2F
                                                   2

                             1    =  =  2 × 1+F +2F  2(1 + F ) × 2 × =  ×   2 2 ′  1 1 1  b =  ×  1+F +2F 2 ′  ′        b 2  2(1+F ) 2  ′  ×2×     2  2 =         ×  ′  1  2(1+F )    2 ×  =
                                     =
                                                  ′

                                        2
                                       a + a + 2a a r 2××
                                        2 ×
                                        1
                                  F′
                                            =
                                                 ′ ′
                                                   1 2 g 1 g 2 2 2(1+F )2(1+F+F )
                                            2(1+F )) 2(1
                                                 m′b′
                                       2
                                                   2
                                                 ,
                                            , ,
                                                     2
                                       1 + F + 2F
                             1
                          m   แทนค่า   a + a + 2a a F     2   m′b′     =      F′   แทนค่า
                                 =  =
                                        2
                                             2

                                               ,

                                                  1 2
                                           ′′
                                        2(1 + F ) ′′ ′
                                           ′′
                                        1+F +2F
                                        1+F +2F
                                  =

                         m
                        m    1    =  =   2a + 2a a F   =  2 ′′  1+F +2F1+F +2F  ′ 2 ′ 2  ′′ ′  =     2  ′ ′′     1+F +2F  m   =   m      ′  m      ′′  1+F +2F  =   m
                                        m
                                  m
                                         2
                                              ′ ′ =
                  จะสำมำรถหำค่ำ a ได้จำกกฎข้อที่ 1
           ท�าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb 2+F ) 2a′ (b + F′) 2a′(b+F′)   2(1  2(1+F ))  ′ ′  2(1+F  =   ′  2(1+F )
                                               1 2 ′
                                         2(1+F ) )
                                         2(1+F

                                                                                  จาก

                             1  จาก
                                  =
                                       2a (1 + F)

                                         2
                  ก ำหนดให้ a เป็นอิทธิพลหรือสัมประสิทธิ์ค่ำบำทจำ 2 2ก เซลล์สืบพันธุ์ไปจีโนไทป์ หรือไซโกต   ท าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb   F = mb    ท าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb
                                                                      2
                                                                        2
                    ท าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb  ท าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb   ท าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb
                                                   2
                   ท าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร
                                      2
           จาก               2           1           1   1
                                                    a + a + 2a a r =
                                  a′



                   จาก      a      =   2(1+F) 1 =   = √ 2(1+)       F )F  ′ ′     2  2(1+     √  1 2 g 1 g 2    จาก     a′      จาก      จาก
                    จาก
                                   จาก
                                                     2
                                                     1
                                                          2
                                             ,
                                           1 1+F ′ ′ 1
                                 =  =     1+F =   ′  2   1+F + 2a a F             ′
                                                          2
                                                               ′
                                                            ′
                                   =
                         b  b  b  a   =   √ √ b  √ 1+F      =       1+F 1+F a + a ′′      =   1+F 1 2  b  √  =   b       1+F  √  =   b
                                          2
                                        2(1+F)
                                                       √√
                                                      ′′
                                                                  1+F
                                  b′      1  2 2=  =   2a + 2a a F   2 √  =   b′    2

                                                    2 √
                                                          2
                                                      2
                    ท าการแทนค่า m และ b ท าการแทนค่า m และ b
                   ท าการแทนค่า m และ b
           ท�าการแทนค่า m และ b           1          2  2  2  1 2           ท าการแทนค่า m และ b   แทนค่า   ท าการแทนค่า m และ b   ท าการแทนค่า m และ b
                             แทนค่า


                                                          2
                                                    2
                                        mb
                                                        mb
                         F  F      =    F  mb  2 2  =   =      2a (1 + F)    2  F  mb     =   F   2  mb     =   F
                                   =
                                                       mb    =
                          F      =   2 m   mb 2 2 =   2 2a′ (b +(b+F)   ′  2  1 ′ 2 ′ 2  2  2 2 F ) 2a′  ′  2=   2 m
                                           ′′
                                         a
                                           ′′
                                      ′  1+F +2F ′ ′ ′ =   ′′ ′  1+F ′ ′′′ ′     ′ ′′  1+F +2F  1+F 1+F ′  ′  ′  ′′  1+F +2F
                                        1+F +2F1+F
                                                      1+F1+F +2F1+F +2F
                                     =  )    =   × (√  × )     =  (√ 1+F 2(1+F)  )    × (√)    =   )      (√  ×     =
                                                 × (√ (√
                                                             =  × )
                                           ,,
                                              ′ ′ ,
                                                        22(1+F )) 2
                                    2   2  2(1+F )  ′ 2  2  2(1+F  2 ,  ′ ′2  2(1+F  22  2  ′  2(1+F )
                                         2(1+F ) )
                                 =  + F′]    )  ′′  1+F +2F    )  1  1 1+F    ) × [(√ =   1+F ′′ ) + F′]
                                          1+F
                                                        1
                                              ,
                                          a =  ×[(√
                                                     × √
                                        2(1+F )
                                               = 2 (√
                                                              2 (√
                                                         1+F 2
                                                    ′′ ′
                                           ′′
                                           ′′
                                         ′ 2
                                                          ′′ ′ )
                                        1+F +2F1+F 1+F +2F  ′ ′ ′  1+F ′ 2(1+F2(1+F )  ′ ′ 2(1+F) ′  ′ ′′  1+F1+F +2F  ′ 2  ′  1+F  ′  ′′  1+F +2F
                                                   1+F 1+F +2F1+F +2F
                                           ,,

                                               ×
                                   =
                                                 × =
                                     =   1+F +2F   ,  × ′  1+F        ,  =  ×  ′ ′  ×     =         ×  ′     =
                                              ′ ′
                                         2(1+F ) )2 2(1+F )
                                 =                   ×  2 2 2(1+F  2  2(1+F ))  2 2(1+F  2  2(1+F )
                                              ,
                                                                 ′′
                                        2(1+F ) 1+F+2F     ′  =  ′′  ,  2 ××  2 1  1  ×2×  1+F +2F ′
                                                                   =
                                             2 ,,
                                 =       1+F +2F     ′  2(1+F )2(1+F )  ′  2
                                           4
                                                    ′′ ′
                                  m         =    1+F +2F +2F     ′ ′′     1+F  =   m
                                                  2(1+F ))  ′ ′  2(1+F
                             ท าการหาอัตราเลือดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb  ดชิด (F) ได้จากสูตร F = mb   2  2  ท าการหาอัตราเลือ
                             จาก                                                  จาก
                                  b         =    √ 1+F ′         ′  1+F  √  =   b
                                                    2      2
                             ท าการแทนค่า m และ b                                 ท าการแทนค่า m และ b
                                                    2
                                  F         =    mb        2  mb     =       F
                                          2                          2
                                            ′   1+F  1+F +2F +2F  ′ ′′  1+F  1+F ′
                                                    ′′ ′
                                            )     =   × (√  × (√   =   )
                                              2   2(1+F ))  ′ ′  2(1+F  2
                                                ′   ′′ ′  ′ ′′  ′
                                                 1+F +2F +2F1+F  1+F1+F
                                            =        ×    ×        =
                                                 2  2(1+F ))  ′ ′  2 2(1+F
   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146