Page 38 -
P. 38
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รายงานฉบับสมบูรณ์ กันยายน
โครงการเตรียมรับมือและป้องกันผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
๒๕๕๗
ที่อาจมีต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม โดยจัดท ามาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติประเภทภูเขา
ความเหลื่อมล้ าในฐานะของบุคคลในทางเศรษฐกิจและสังคม พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
พ.ศ. 2518 ประกอบด้วย 5 หมวด ได้แก่ หมวด 1 ส านักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหมวด 2
คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด หมวด 3 การด าเนินการปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หมวด 4 อุทธรณ์ และ หมวด 5 บทก าหนดโทษ
แหล่งธรรมชาติประเภทภูเขาบางแห่งอาจตั้งอยู่ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรมหากต้องการเข้าไปใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อการบริหารจัดการและการอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยา
ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้บัญญัติไว้ว่า นอกจากการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร ซึ่งใช้ประกอบ
เกษตรกรรมและสถาบันเกษตรกร ให้ ส.ป.ก.มีอ านาจจัดที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุคคลใดเช่า เช่าซื้อ ซื้อ
หรือเข้าท าประโยชน์ เพื่อใช้ส าหรับกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินตามที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศก าหนดในราชกิจจานุเบกษาได้ ทั้งนี้ ตามขนาดการถือครอง
ในที่ดินที่คณะกรรมการเห็นสมควร ซึ่งต้องไม่เกิน 15 ไร่ ส่วนหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตหรือ
การให้ผู้ได้รับอนุญาตถือปฏิบัติให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการก าหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี การจัด
ที่ดินให้เช่าหรือเช่าซื้อตามมาตรานี้ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการเช่าหรือเช่าซื้อ
และสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อดังกล่าวจะโอนแก่กันได้หรือตกทอดทางมรดกได้เฉพาะตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่คณะกรรมการก าหนด
2.1.3.7 พระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511
พระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ให้อ านาจแก่รัฐในการจัดที่ดิน
ของรัฐเพื่อให้ประชาชนได้มีที่ตั้งเคหะสถานและประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งในที่ดินนั้น โดยจัดตั้งเป็นนิคม
พระราชบัญญัตินี้ประกอบด้วย 4 หมวด ได้แก่ หมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 การจัดที่ดินในรูปนิคมสร้างตนเอง
หมวด 3 การจัดที่ดินในรูปนิคมสหกรณ์ และหมวด 4 บทก าหนดโทษ
แหล่งธรรมชาติประเภทภูเขาบางแห่งอาจตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมที่ตั้งขึ้นตาม
พระราชบัญญัตินี้ โดยพระราชบัญญัตินี้ได้มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการแหล่งอันควรอนุรักษ์ดังนี้
มาตรา 14 ให้อธิบดีมีอ านาจปฏิบัติการในที่ดินภายในเขตของนิคมเกี่ยวกับไม้หวง
ห้าม แร่ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์เป็นเงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นส าหรับบ ารุง
ส่งเสริมกิจกรรมและการจัดท าสิ่งก่อสร้างอันเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมของนิคมได้โดยปฏิบัติการตามกฎหมายว่า
ด้วยการนั้น
มาตรา 15 ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปหาประโยชน์ ยึดถือ ครอบครองปลูกสร้าง ก่อสร้าง
แผ้วถาง เผาป่า หรือท าด้วยประการใดๆ อันเป็นการท าลายหรือท าให้เสื่อมสภาพที่ดิน หรือท าให้เป็นอันตรายแก่
ทรัพยากรธรรมชาติในที่ดินภายในเขตของนิคม เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี และให้อธิบดีมีอ านาจเรียก
เก็บเงินค่าบ ารุงตามจ านวนที่อธิบดีก าหนดโดยสมควรแก่กิจการนั้น โดยเงินค่าบ ารุงนั้นให้ใช้เพื่อประโยชน์
ส่วนรวมของนิคม (มาตรา 16)
2-15