Page 194 -
P. 194

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                      2-61




                                        1.2 ใหความเห็นชอบใหกรมพัฒนาที่ดินเขาทําการสํารวจความเหมาะสมแกการ
                  ทําการเกษตรในแปลงที่ดินดังกลาว
                                        1.3 ในสวนของราษฎรที่อางวา เขาครอบครองหลังประกาศเปนที่ของรัฐ แต

                  กอนที่การเขาปลูกปา ใหหนวยงานที่เกี่ยวของทําการตรวจสอบและพิจารณาการชวยเหลือตามขั้นตอนตอไป
                                2. กรณีการดําเนินการแกไขปญหาสวนปาตําบลเดิด จังหวัดยโสธร
                                         2.1  เห็นชอบใหกรมปาไมดําเนินการชดเชยที่ดินตามจํานวนพื้นที่และราคาที่
                  คณะทํางานฯ ไดดําเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้ใหเปนไปตามระเบียบและวิธีการปฏิบัติของทางราชการที่

                  กําหนดไว โดยใหกรมปาไมมีการจายคาชดเชยโดยเร็ว
                                        2.2  ในสวนของราษฎรผูเรียกรองที่เหลืออยู ใหหนวยงานที่เกี่ยวของไปเรงรัด
                  ดําเนินการตอไป

                         วันที่  5 ตุลาคม 2542  คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการรางพระราชบัญญัติปาชุมชน พ.ศ. …. ตามที่
                  กระทรวงเกษตรและสหกรณเสนอ  และใหสงสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แลวสงให
                  คณะกรรมการประสานงานสภาผูแทนราษฎรพิจารณา  กอนนําเสนอสภาผูแทนราษฎรพิจารณาตอไป  ซึ่ง
                  รางพระราชบัญญัติดังกลาว   สอดคลองกับนโยบายของคณะรัฐมนตรีดานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

                  และสิ่งแวดลอมที่จะสงเสริมการอนุรักษและฟนฟูทรัพยากรปาไมทั้งปาบกและปาชายเลน  โดยสนับสนุน
                  องคกรปกครองสวนทองถิ่นและประชาชน      ใหมีสวนรวมในการดูแลรักษาปาไมและปลูกสรางปาชุมชน
                  ตลอดจนบังคับใชกฎหมายเพื่อปองกันและปราบปรามการลักลอบตัดไมทําลายปาอยางเครงครัด
                  นอกจากนั้น  รางพระราชบัญญัติดังกลาวไดผานการประชาพิจารณ  ผานความเห็นชอบจากคณะกรรมการ

                  ประสานงานการติดตามการแกไขปญหาสมัชชาคนจน รวมทั้งไดผานการปรับปรุงแกไขโดยกรมปาไมเพื่อให
                  เปนไปตามผลการประชุมสัมมนาผูที่เกี่ยวของทั้งหลายแลว

                                รางพระราชบัญญัติปาชุมชน พ.ศ. …. มีสาระสําคัญ ดังนี้

                                1.  พื้นที่ที่สามารถจัดตั้งปาชุมชนได  โดยหลักการทั่วไปสามารถขอจัดตั้งปาชุมชนไดใน
                  พื้นที่ปาทั่วไป เขตปาสงวนแหงชาติ หรือที่ดินที่ยังไมไดมีบุคคลไดมาตามกฎหมาย   แตในกรณีที่จะขอ
                  จัดตั้งปาชุมชนในเขตอนุรักษ เชน เขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา จะทําไดตอเมื่อกลุมผูขอ
                  จัดตั้งปาชุมชนเปนชุมชนทองถิ่นดั้งเดิม และไดดูแลรักษาพื้นที่ปานั้นมาแลวไมนอยกวาหาปกอนวันที่

                  พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ และแสดงใหเห็นไดวาการอยูอาศัยนั้นไดเกื้อกูลตอการดูแลรักษาสภาพปา พื้นที่
                  ที่จัดตั้งปาชุมชนแลวยังคงอยูภายใตบังคับกฎหมายอื่นที่ใชบังคับเกี่ยวกับพื้นที่นั้นตอไป เวนแต
                  พระราชบัญญัติปาชุมชนฯ จะไดกําหนดไวเปนอยางอื่น
                                2.  หลักเกณฑการขอจัดตั้งปาชุมชน  ผูขอจัดตั้งปาชุมชนจะตองเปนชุมชนในทองที่ใดที่มี

                  พื้นที่ปาอยูใกลและอยูในสภาพที่จะดูแลรักษาปาได       หากประสงคจะจัดตั้งปาชุมชนในทองที่นั้นให
                  ผูแทนชุมชนยื่นคําขอตอคณะกรรมการตรวจสอบปาชุมชนประจําจังหวัดเจาหนาที่ปาชุมชนซึ่งไดรับแตงตั้ง
                  จากคณะกรรมการตรวจสอบปาชุมชนประจําจังหวัดจะทําหนาที่ตรวจสอบขอเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพพื้นที่

                  และรายละเอียดเกี่ยวกับคําขอ หลังจากนั้นจะมีการประกาศคําขอจัดตั้งปาชุมชนเพื่อเปดโอกาสใหผูที่
                  เกี่ยวของคัดคานหรือแสดงความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติของอธิบดี
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199