Page 112 -
P. 112
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พ.ศ. 2518 พ.ศ. 2518 พ.ศ. 2519 พ.ศ. 2520
จัดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ สังกัดสถาบันวิจัยและ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา รัฐบาลมีนโยบายให้สถาบันอุดมศึกษาบรรจุหลักสูตรเกี่ยวกับ
พัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเริ่มใช้ เสด็จเข้าศึกษาที่คณะวิทยาศาสตร์ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ การปกครองระบอบประชาธิปไตยลงเป็นวิชาบังคับทุกหลักสูตร
คอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูลการลงทะเบียนครั้งแรก เสด็จฯ มาเป็นอาจารย์พิเศษวิชาภาษาฝรั่งเศส
แม้จะอยู่ในช่วงรัฐประหาร แต่แผนการจัดซื้อที่ดินที่อำาเภอ ซึ่งแบ่งเป็นส่วนเงินกู้จากธนาคารโลก 320.3 ล้านบาท (15.4 ล้าน
กำาแพงแสน จังหวัดนครปฐม เพื่อเตรียมความพร้อมในการขยาย เหรียญสหรัฐ) และเป็นเงินงบประมาณของรัฐบาล 269 ล้านบาท
วิทยาเขต และเพิ่มปริมาณนิสิตจากนโยบายของหม่อมหลวงชูชาติ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นบุคคลหนึ่งที่ควรสรรเสริญใน
กำาภู ในทศวรรษก่อน ยังคงดำาเนินต่อไป แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่ง โครงการเงินกู้นี้ด้วย บันทึกของ ดร.ประเสริฐ ณ นคร บันทึกไว้
ของการเตรียมความพร้อมโครงการกู้เงินจากธนาคารโลก สำาหรับ ว่า ดร.ป๋วยเป็นผู้ที่แสดงความคิดริเริ่มเรื่องการขอกู้เงินจาก
นำามาพัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนำามาซึ่งการเปลี่ยนแปลง ธนาคารโลก และได้ดำาเนินเรื่องจนสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและ
ครั้งใหญ่ในทศวรรษนี้ สังคมแห่งชาติเห็นชอบด้วย
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 กระทรวงการคลังได้ยื่นเรื่อง การกู้เงินจากธนาคารโลกนี้เนื่องจาก ดร.ป๋วยเล็งเห็นว่า 105
ถึงคณะปฏิวัติเพื่อขอความเห็นชอบโครงการดังกล่าว เมื่อได้รับ หากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พึ่งพาแต่เพียงงบประมาณจาก
ความเห็นชอบ คณะปฏิวัติจึงได้แต่งตั้งคณะผู้แทนไทยเพื่อไปเจรจา รัฐบาลแต่อย่างเดียวไปเรื่อยๆ จะไม่มีทางขยายกิจการได้ทันความ
การกู้เงินอย่างเป็นทางการที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องการของประเทศ เพราะช่วงนั้นนโยบายรัฐบาลไม่ได้พุ่งเป้า
โดยมีหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์ุ ศาสตราจารย์ ดร.สง่า ไปยังการพัฒนาการศึกษาทางการเกษตร ดร.ประเสริฐระบุว่า “ถ้า
สรรพศรี ศาสตราจารย์ ดร.ไพฑูรย์ อิงคสุวรรณ รองศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไม่กู้ครั้งนี้ ก็จะหมดโอกาสกู้ในอนาคต”
อาบ นคะจัด เป็นผู้แทนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ โครงการเงินกู้จากธนาคารโลกเป็นจุดเปลี่ยนสำาคัญที่ทำาให้ 72 ปี เกษตรศาสตร์ พิพัฒน์แผ่นดินไทย ทศวรรษที่ 4
Dr. James H. Jensen เป็นที่ปรึกษา ร่วมกับผู้แทนของคณะปฏิวัติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เติบโตอย่างก้าวกระโดด อาจารย์หลายท่าน
อีกส่วนหนึ่ง ได้เพิ่มคุณวุฒิและโอกาสในการพัฒนาตนเองด้วยการศึกษาวิจัย
การเจรจาเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2515 ใช้เวลา มีอาคารใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายหลัง เช่น ตึกวนศาสตร์ (ตึกเทียม
ยาวนานร่วมสองสัปดาห์ จนกระทั่งมีการลงนามในสัญญาเงินกู้เพื่อ คมกฤส) ตึกคณะประมง ตึกชีวเคมี สำานักหอสมุด และสำานักงาน
พัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 อธิการบดี และได้ขยายการก่อสร้างสถานีและอาคารใหม่ๆ ไปยัง
โดยแผนดังกล่าวเป็นโครงการ 5 ปี ใช้งบประมาณ 589.3 ล้านบาท วิทยาเขตกำาแพงแสนอีกด้วย
“มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ต้องเป็นที่พึ่งให้กับประเทศในเรื่องการผลิตอาหาร โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมเกษตร
โดยมีองค์ความรู้ทางวิชาการอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เป็นแกนสนับสนุน
“เราเป็นคนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เราต้องรักมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เราเป็นคนของชาติไทย เราต้องรัก
ชาติไทย เป้าหมายสำาคัญของเกษตรต้องเป็นอาหาร และหลักสูตรต่างๆ ต้องทำาให้อำานวยผลต่อชาติบ้านเมือง
งานวิจัยที่ไปทำาต่างๆ ต้องทำาให้นำาไปใช้ประโยชน์ได้กับชาติบ้านเมือง”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก ปรีชานนท์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พ.ศ. 2525 - 2529)