Page 108 -
P. 108
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พ.ศ. 2513 พ.ศ. 2514 พ.ศ. 2514 พ.ศ. 2515
จัดตั้งคณะศึกษาศาสตร์ จัดตั้งโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งศูนย์วิจัยการควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติขึ้น มีโครงการกู้เงินจากธนาคารโลก
ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำามาสู่การพัฒนาในหลายด้าน
วงดนตรี “รวมดาวกระจุย”
วงดนตรี “รวมดาวกระจุย” ตั้งขึ้นเพื่อล้อกับวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดัง
อีกวงหนึ่งในยุคนั้นคือ “วงดาวกระจาย” วงดนตรี “รวมดาวกระจุย”
เกิดขึ้นจากการรวมตัวระหว ่ างคณะนิสิตกลุ ่ มเฮฮา กับคณะลำาตัด
“แม่ชูศรี” ในต้นปี พ.ศ. 2513 วงดนตรีลูกทุ่งวงนี้เปิดตัวครั้งแรกใน
วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2513 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ท่ามกลางการต้อนรับของผู้ชมที่แน่นขนัดจนไม่มีที่ว่างแม้แต่ขอบเวที
จากความสำ เร็จครั้งนั้นวงดนตรี “รวมดาวกระจุย” ได ้ เดินสายแสดง
101
ออกอากาศทางโทรทัศน์ทั้งช่อง 3 และช่อง 5 และได้แสดงถวายเฉพาะ
พระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานเปิดสวนอัมพร (ใหม่)
ด้วยลีลาการแสดงเฉพาะตัว มุกตลกที่มีไม่ขาด และมีการสร้างสรรค์
หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 วงดนตรีรวมดาวกระจุยจึงเริ่ม ศาสตราจารย์อินทรี จันทรสถิตย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คนที่ 4 (พ.ศ. 2501 - 2508)
เดินสายไปตามต่างจังหวัดเพื่อแสดงการกุศลและให้ความรู้ ความบันเทิง
แก่ชาวบ้านตามภูมิภาค ทำ ให้เวลาต่อมาวงดนตรีรวมดาวกระจุยโด่งดัง ศาสตราจารย์อินทรี จันทรสถิตย์ กับการกีฬา
เป็นอย่างมาก ได้เปิดการแสดงไปทั่วประเทศ แสดงออกอากาศทุกช่อง นอกเหนือจากการพัฒนามหาวิทยาลัยทางกายภาพแล้ว
โทรทัศน์ โดยเป็นการแสดงการกุศล ศาสตราจารย์อินทรี จันทรสถิตย์ ยังเป็นอธิการบดีผู้ให้การสนับสนุน 72 ปี เกษตรศาสตร์ พิพัฒน์แผ่นดินไทย ทศวรรษที่ 3
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิศักดิ์ บ้วนกียาพันธุ์ หนึ่งในสมาชิกวงยุคนั้น ด้านกีฬาคนสำ คัญ ในปี พ.ศ. 2506 ศาสตราจารย์อินทรีได้ดำ ริการสร้าง
ได้บันทึกไว้ว่า “…งานวัด โรงเรียน โรงแรม โรงภาพยนตร์ จนถึงลานบ้าน สนามกีฬาสำาหรับนิสิตขึ้น โดยให ้ เจ ้ าหน ้ าที่รื้อถอนและถมดินบริเวณ
ไปทั่วทั้งสายเหนือ สายอีสาน สายใต้ ไปทั้งหมด จำ ได้ว่า การเดินสาย คอกไก่เก่าและบ่อปลาที่ไม่ใช้แล้ว และมอบหมายให้อาจารย์ปราณี แจ้งเจนกิจ
เช่น สายใต้ใช้เวลา 10 วัน แสดงถึง 13 รอบ สิ่งที่ต้องทำ ตลอดการ ดำ เนินการปรึกษากรมพลศึกษาเพื่อสร้างลู่วิ่งรอบสนาม สนามกีฬานี้
เดินทางคือ ขนเครื่องเดินทางขึ้นรถ ขนเครื่องลงรถ ตั้งเครื่อง แสดง ใช้งบประมาณทั้งหมด 280,000 บาท สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2508 และ
นอน (นิดหน่อย) ขนเครื่องเดินทาง ตั้งเครื่อง แสดง ฯลฯ เป็นเช่นนี้ ตั้งชื่อเป็นเกียรติว่า “สนามอินทรี จันทรสถิตย์”
ตลอด เหนื่อยมาก...แต่มัน” ศาสตราจารย์อินทรี จันทรสถิตย์ ยังสนับสนุนการกีฬาใน
มหาวิทยาลัย ทั้งจัดให้มีการแข่งขันกีฬาระหว่างอาจารย์กับข้าราชการ
โดยเป็นผู้นำ ลงเล่นเอง หรือมอบเสื้อสามารถให้กับนักกีฬาที่ทำ ชื่อเสียงให้
มหาวิทยาลัยเสมอๆ
ศาสตราจารย์ ดร.สุชีพ รัตรสาร และผู้ช่วยศาสตราจารย์
พุม ขำ เกลี้ยง ได้บันทึกว่า “…ท่านอาจารย์คุณหลวงอิงคฯ เป็นคนที่ชอบ
กีฬา และต้องการสนับสนุนการกีฬาของมหาวิทยาลัยฯ อย่างจริงจัง ฉะนั้น
วันไหนหรือนัดไหนที่มีกีฬาที่สำ คัญหรือค่อนข้างสำ คัญ ถ้าท่านไม่ติดธุระ
ที่สำ คัญ ท่านจะไปชมและเชียร์เพื่อเป็นกำ ลังใจแก่นักกีฬาเกือบตลอดเวลา
(ท่านมักจะกลับก่อนหมดการแข่งขันสัก 5 - 10 นาที เหตุที่ท่านต้องกลับก่อน
เพราะถ้าท่านดูจนเลิกแล้ว คนแน่น รถจะติด ไม่สะดวก บางคราวท่านบอกว่า
ผมเอ๊กไซต์ ไม่กล้าดูจนจบ) พูดได้ว่าท่านเป็นอธิการบดีคนเดียวที่คอยติดตาม
วงดนตรี “รวมดาวกระจุย” ข่าวกีฬาของมหาวิทยาลัยอยู่ตลอดเวลา และไปดูกีฬามากที่สุด...“