Page 102 -
P. 102

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





 พ.ศ. 2507   พ.ศ. 2507                               พ.ศ. 2508                       พ.ศ. 2508
 เริ่มเปิดการเรียนการสอนภาคฤดูร้อนเป็นครั้งแรก  บัณฑิตหญิงเปลี่ยนจากสวมชุดราตรีสีขาวเป็น   สนามอินทรี จันทรสถิตย์ สร้างเสร็จ  หม่อมหลวงชูชาติ กำาภู
            ชุดนิสิต เพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร  และเปิดใช้ในวันงานกรีฑา        ดำารงตำาแหน่งอธิการบดี




                  ขณะที่โลกกำาลังก้าวเข้าสู่ภาวะสงครามเย็นจากการเผชิญหน้า
            ระหว่างโลกเสรี นำาโดยสหรัฐอเมริกา กับโลกคอมมิวนิสต์ นำาโดย
            สหภาพโซเวียตและประเทศจีน แต่หลายประเทศแถบเอเชีย
            ตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งขณะนั้นยังเป็นประเทศกำาลังพัฒนา ถูกใช้เป็น
            ทั้งฐานกำาลังทางทหารและเป็นพื้นที่นำาร่องในการแสดงฐานความคิด
            เพื่อพัฒนาประเทศ ประเทศไทยซึ่งอยู่ในฝั่งที่รับการสนับสนุนจาก
            สหรัฐอเมริกาได้เริ่มต้นพัฒนาประเทศด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
            และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ซึ่งได้รับอิทธิพลความคิดส่วนใหญ่
            จากองค์การบริหารวิเทศกิจแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ United States                                                                   95
            Agency for International Development (USAID) แผนพัฒนาฯ
            ดังกล่าวส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว
            มีการสร้างถนนหลายสายตัดผ่านหัวเมืองใหญ่ ชักนำาการพัฒนา
            ไปทั่วถึง ผลผลิตเกษตรซึ่งแต่เดิมเป็นสินค้าแลกเปลี่ยนในท้องถิ่น
            เริ่มกระจายเข้าสู่หัวเมืองใหญ่ผ่านถนนหนทางที่นำารถบรรทุกไป            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
                                                                                    เสด็จฯ มาทรงปลูกต้นนนทรี 9 ต้น เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506
            รับซื้อผลผลิตถึงแปลง ส่งผลให้เกิดประโยชน์และความเจริญทาง                                                                       72 ปี เกษตรศาสตร์ พิพัฒน์แผ่นดินไทย        ทศวรรษที่ 3
            พาณิชย์ในระดับท้องถิ่นขยายตัวมากขึ้น
                  ในแวดวงการศึกษา ด้านเกษตรกรรมได้รับความสนใจและ  ได้ส่งผลให้มหาวิทยาลัยสามารถตั้งต้นโครงการบัณฑิตศึกษา
            เห็นความสำาคัญเพิ่มขึ้น นอกจากคณาจารย์และบุคลากรที่ได้รับ  ได้อย่างเป็นปึกแผ่น มีการปรับปรุงการสอนวิชาพื้นฐานต่างๆ
            ทุนไปศึกษาต่อยังต่างประเทศหลายคนเมื่อทศวรรษก่อน จะกลับมา  ทั้งทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีผลเชิงสนับสนุนให้
            เป็นกำาลังสำาคัญให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว โครงการ อาจารย์ได้ทำางานวิจัย และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน จนนำามาสู่
            สัญญา KU-U. of Hawaii ระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับ  การเริ่มต้นสนับสนุนงบประมาณทำาวิจัยจากรัฐบาล ซึ่งต่อมาได้
            มหาวิทยาลัย Hawaii ที่ได้วางรากฐานไว้ในปลายทศวรรษก่อนหน้า   พัฒนามาเป็นโครงการบัณฑิตวิทยาลัย



                   ศาสตราจารย์ ดร.ไพฑูรย์ อิงคสุวรรณ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำาแพงแสน
               ตั้งแต่เริ่มต้นจนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ในสมัยที่ท่านดำารงตำาแหน่งอธิการบดี ศาสตราจารย์ ดร.ไพฑูรย์มองว่า
               บทบาทของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คือการสร้างความรู้ สร้างคน อาจเป็นเกษตรกรหรือแม้แต่คนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง
               กับวงจรการเกษตร แต่หากต้องการประโยชน์ เราก็ต้องช่วยเขาได้ เพื่อให้สังคมดีต่อไปในอนาคต
                   “ในวาระครบรอบ 72 ปี อยากให้มหาวิทยาลัยนำาองค์ความรู้ไปช่วยเหลือชาวบ้าน ชาวบ้านก็เป็นนักวิชาการได้เหมือนกัน
               บางคนก็เป็นอยู่แล้ว เราน่าจะฉวยโอกาสที่เรามีพื้นที่ มีงานวิจัย ไปช่วยเขา มันจะช่วยย้อนกลับมาสร้างความเฉียบแหลม
               ให้นักวิจัยหรือลูกศิษย์ของเราได้ และเขาจะรับฟังเรามากขึ้น”





                                                                         ศาสตราจารย์ ดร.ไพฑูรย์ อิงคสุวรรณ
                                                            อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พ.ศ. 2523 - 2525)
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107