Page 105 -
P. 105
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
copy right copy right copy right copy right copy right
copy right copy right copy right copy right copy right copy right
copy right copy right copy right copy right
93
ความใส (Clarity)
ความตานทานแรงฉีก (Tear resistance)
copy right copy right copy right copy right copy right copy right
ความตานทานแรงกระแทก (Impact strength)
ความเหนียว (Toughness)
การยืดตัว (Elongation)
ชวงอุณหภูมิปดผนึกดวยความรอน (Heat sealing range)
4 การเปลี่ยนเฟส (Phase transition) ของพอลิเมอร
สสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและมีน้ําหนักโมเลกุลแนนอน แสดงเฟสหรือสถานะได 3 สถานะ คือ
ของแข็ง ของเหลว และกาซ เมื่อสสารมีพลังงานเพียงพอจะเปลี่ยนสถานะจากของแข็งไปเปน
ของเหลว และเรียกอุณหภูมิที่เปลี่ยนสถานะนี้วา จุดหลอมเหลว ซึ่งเปนคาเดียวและเปนคาเฉพาะ
ของสสาร และถายังมีพลังงานเพิ่มขึ้นไปอีกจนเพียงพอใหเปลี่ยนสถานะจากของเหลวไปเปนกาซ
อุณหภูมิที่สถานะเปลี่ยนเรียกวาจุดเดือด ซึ่งเปนคาเดียวเชนกัน อาทิ การเปลี่ยนเฟสของน้ํา ดัง
แสดงในภาพที่ 4-13 ในระหวางที่น้ําเปลี่ยนเฟส พลังงานที่ใหเพิ่มเขาไปไมทําใหอุณหภูมิเพิ่มขึ้น ซึ่ง
เปนไปตามกฎขอที่ 1 ของทฤษฎีอุณหพลศาสตร (Thermodynamics)
copy right copy right copy right copy right
copy right copy right copy right copy right copy right copy right
ภาพที่ 4-13 แผนภูมิการเปลี่ยนเฟสของน้ํา
สําหรับพอลิเมอรซึ่งมีโมเลกุลขนาดใหญและขนาดไมเทากันมีการเปลี่ยนเฟสที่แตกตางจากสสารที่
กลาวขางตน นอกจากนี้พอลิเมอรมีทั้งโครงสรางแบบผลึกและอสัณฐานอยูดวยกัน ซึ่งโครงสรางทั้ง
สองนี้ตอบสนองตอพลังงานความรอนแตกตางกัน การเปลี่ยนเฟสของพอลิเมอรจึงมีลักษณะเฉพาะ
และแตกตางจากสสารทั่วไป อาทิ
copy right copy right copy right copy right