Page 36 -
P. 36

ิ
                           ิ
                         ื
                                                    ิ
                                                                         ุ
                                                                  ั
                                      ์
                                   ิ
            โครงการหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร       ี
                                                   25


                  2.6 ความเสียหายของโครโมโซมภายหลังการได้รับรังสี
                         เมื่อรังสีเกิดอันตรกิริยากับสารพันธุกรรม  อาจสํงผลให๎เกิดการเปลี่ยนแปลงใน
                  ระดับโครโมโซมได๎  ความผิดปกติที่เกิดขึ้นบนโครโมโซมอาจจะเป็นความผิดปกติในด๎าน
                  รูปรําง  (structural  aberration)  หรือความผิดปกติในเรื่องจ านวน  (numerical
                  aberration)  แตํผลของรังสีสํวนใหญํมักจะเกี่ยวข๎องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร๎างหรือ
                  รูปรํางมากกวําการเปลี่ยนแปลงจ านวน โดยการเปลี่ยนแปลงจ านวนนั้น มักเกิดขึ้นในกรณี
                  ที่ได๎รับรังสีในปริมาณที่สูงมาก จนท าให๎เกิดความเสียหายกับโครโมโซมในปริมาณมาก


                         Hall (2006) ได๎จ าแนกลักษณะความเสียหายของโครโมโซมอันเนื่องมากจากรังสี
                  ซึ่งจะมีความมากน๎อยตํางกัน ขึ้นอยูํกับระยะในวัฏจักรเซลล์ขณะที่ได๎รับรังสี การแตกหักที่
                  ตรวจพบในระยะเมทาเฟสนั้น สามารถจ าแนกได๎เป็น 2 ประเภท ได๎แกํ


                         1)  การแตกหักของโครโมโซม  (chromosome  aberrations)  การแตกหักใน
                  ลักษณะนี้  เป็นผลมาจากการที่เซลล์ได๎รับรังสีในขณะที่อยูํในระยะกํอนเข๎าสูํอินเตอร์เฟส
                  เป็นขั้นตอนกํอนที่ดีเอ็นเอและสํวนอื่นๆ  ของโครโมโซมมีการจ าลองตัวเอง  ในขบวนการ
                  สังเคราะห์ดีเอ็นเอในระยะนี้  โครโมโซมจะเป็นเส๎นสายเดี่ยว  (single  strand)  ของ
                  โครมาติด  เมื่อรังสีท าให๎เกิดการแตกหักขึ้นบนเส๎นสายเดี่ยว  ในระยะตํอมาซึ่งเป็นชํวงที่
                  โครโมโซมมีการจ าลองตัวเองเป็นเส๎นสายคูํ  (double  strand)  โดยขบวนการสังเคราะห์
                                        ู
                  ดีเอ็นเอสํงผลให๎การแตกหักถกจ าลองไปด๎วย ดังนั้น  โครมาติดที่เกิดใหมํก็จะมีการแตกหัก
                  เกิดขึ้นด๎วยเชํนกัน   ซึ่งในระยะไมโทซิสตํอมาจะเกิดความผิดปกติของโครโมโซมขึ้น
                  ตัวอยํางเชํน  ลิมโฟไซต์  ซึ่งตามปกติจะอยูํในระยะ  G   ซึ่งเป็นระยะกํอนเข๎าสูํอินเตอร์เฟส
                                                           0
                  ของวัฏจักรเซลล์ เมื่อได๎รับรังสีจะเกิดการแตกหักของโครโมโซม

                         2) การแตกหักของโครมาติด (chromatid aberrations) การแตกหักในลักษณะ
                  นี้  เป็นผลมาจากการได๎รับรังสีในขณะที่เซลล์อยูํในระยะหลังจากระยะอินเตอร์เฟส  ท าให ๎
                  เกิดการแตกหักของโครโมโซมเพียงหนึ่งโครมาติดเทํานั้น


                         ความเสียหายของสารพันธุกรรมที่เกิดขึ้นภายหลังจากการได๎รับรังสีนั้น  สํงผลให๎
                  เซลล์เกดกลไกการซํอมแซม โดยหากการซํอมแซมส าเร็จก็จะท าให๎เซลล์คืนสภาพปกติ แตํ
                        ิ
                  หากซํอมแซมไมํส าเร็จอาจกํอให๎เกิดการกลายพันธุ์  (mutation)  หรือในกรณีที่เกิดความ
                  เสียหายมากจะสํงผลให๎เกิดการตายบางสํวน   (necrosis)   หรือการตายด๎วยตนเอง
                  (apoptosis)  หรือการพัฒนาในรูปแบบที่ไมํปกติจนเกิดเป็นเซลล์มะเร็งขึ้นได๎  (Arena,
                  2014; Hall, 2006)
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41