Page 95 -
P. 95
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จากการที่เราเป็นญาติกันตั้งแต่รุ่น อุณหภูมิิจะต่ำากว่า 10 องศาเซลเซียส
ปู่ – ย่า, ตา – ยาย ทำาให้ครอบครัวของ ในระหว่างที่รอต้นลิ้นจี่เจริญเติบโตให้
เราสนิทกันมาก มีการเอื้อเฟื้อช่วยเหลือ ผลผลิต พี่บรรเจิดจึงได้มีการปลูกผัก
กันมาตลอด หลังจากจบเป็นบัญฑิตจาก เพื่อเป็นรายได้หมุนเวียน ผักที่ปลูกมี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2513 หลายอย่างซึ่งเป็นผักกึ่งเมืองหนาว
จึงได้ตัดสินใจว่าทำาอาชีพเกษตรกร ได้แก่ ผักกาดหอมห่อ บรอคโคลี่ แครอท
เพราะมีที่ทางที่เพชรบูรณ์ซึ่งเคยปลูกส้ม มะเขือเทศ ซึ่งเราก็ทำากันไป เรียนรู้กัน
เขียวหวาน แต่ก็ต้องเลิกไปเพราะเป็นโรค ไปเป็นผลสำาเร็จ สามารถส่งขายมายัง
ระลึงถึงพี่บรรเจิด ตาย เลยได้พี่บรรเจิดชวนไปอยู่ด้วยกันที่ กรุงเทพฯ ตามซุปเปอร์มาเก็ตหลายแห่ง
ไร่ บี.เอ็น. ซึ่งกำาลังบุกเบิกปลูกลิ้นจี่ จึง ได้
- พี่ชิดเชื้อ คุ้นวงศ์ จากกรุงเทพฯ บ้านเกิดไปอยู่เพชรบูรณ์
เพื่อเรียนรู้การเป็นเกษตรกรทำาสวน พี่บรรเจิดจะตื่นนอนแต่เช้ามืดเพื่อ
มาจัดงานให้คนงานออกไปทำาทุกวันแล้ว
ไร่ บี.เอ็น. สมัยนั้นไม่ได้สุขสบาย ก็จะออกไปดูงาน สิ่งที่พี่บรรเจิดจะต้องมี
นัก ไม่มีไฟฟ้าต้องจุดตะเกียงเจ้าพายุ ติดตัวคือ กระดาษจดโน้ตและมีดพับ ดัง
และเป็นพื้นที่อันตรายใกล้เขตผู้ก่อการ นั้น เสื้อที่พี่บรรเจิดใส่จะต้องมี 2 กระเป๋า
ร้ายคอมมิวนิสต์ บางวันจะได้ยินเสียง ทุกตัว เพื่อใส่ของใช้ส่วนตัวข้างหนึ่ง
ปืนจากฝ่ายทหาร รวมทั้งเสียงปืนใหญ่ และใส่สมุดโน้ตอีกข้างหนึ่ง พี่บรรเจิด
และเครื่องบินลาดตะเวนยิงต่อสู้กัน แต่ จะบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรวบรวม
เนื่องจากพื้นที่ตั้งของไร่มีความเหมาะ เป็นข้อมูลศึกษาปรับปรุงแก้ไขให้เข้าใจ
สมมากกับการปลูกพืชกึ่งเมืองหนาว ธรรมชาติของพืชนั้น นอกจากนี้อาจารย์
เพราะอุณหภูมิจะเย็นตลอดปี ในฤดูหนาว จากภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัย