Page 33 -
P. 33
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
คะนองแล้ว เด็กวัยทีนเอจนี่คะนองแล้ว ๑๙-๒๕ มันคะนองทั้งนั้น
โน่น ๓๕ ถึงจะเบาหน่อย พอรู้เรื่องชีวิต รู้จักค่าของชีวิต ไม่ค่อยจะ
เสี่ยงภัยมากเกินไป โตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ ๒๕ นี่มันกำลังคะนอง ทำ
อะไรมักจะรวดเร็วโลดโผน มันจึงเกิดทุกข์เกิดโทษกับคนอายุขนาดนั้น
มาก เพราะความคะนองนั่นเอง ถ้าหากว่าเรารู้ตัว อุบัติเหตุมันเกิด
เพราะความคะนองเกิดเพราะความประมาท เราก็อย่าประมาท ขับรถ
ก็อย่านึกว่ามีรถของเราคันเดียว
อย่างนี้ให้เจิมเท่าไรก็ไม่ได้เรื่อง แล้วคันที่ถูกชนก็ถูกเจิมมาแล้ว
ทั้งนั้น สังเกตดูก็มีรอยเจิม มีรูปหลวงพ่อ หลวงปู่ทั้งหลายอยู่ในรถ
ด้วยกันทั้งนั้นแหละ แต่ก็มีไว้แบบโง่ๆ นั่นแหละ ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ไม่
ได้คิดให้เกิดปัญญา รอยเจิมนี่เขาทำเป็นหุ่นพระพุทธรูปนั่นเอง หุ่น
พระพุทธรูป ๓ มุมนี่ รูปนั่ง พระนั่ง เท่ากับเขียนรูปพระไว้ให้ดู เวลา
จะขับรถก็ดูพระเสียก่อน ดูว่า อ้อ! นี่รูปพระ ไม่ใช่แป้งผงที่เขาเอา
มาจุดๆ ไว้เฉยๆ แต่นี่รูปพระ พระท่านสอนเราเรื่องอะไร สอนเราว่า
“อย่าประมาทลูกเอ๊ย ขับรถต้องระมัดระวัง บนถนนไม่ใช่มีเธอคน
เดียว มันมีรถคันอื่นอีกหลายคัน เพราะฉะนั้น ต้องไปอย่าง
ระมัดระวัง อย่าคะนอง อย่าประมาท” ถ้าคิดอย่างนี้เสียก่อนจับพวง
มาลัย แล้วมัน
ก็ไม่มีเรื่อง นี่ไม่คิดอะไร ไม่ดูที่เจิมด้วยซ้ำไป เพราะเข้าใจว่ารอยเจิม
32 ปั จ จุ บั น ข ณ ะ คื อ แ ส ง ส ว่ า ง