Page 19 -
P. 19
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ความจริงพระพุทธเจ้าท่านมาให้เครื่องมือแก่เราแล้วให้แสง
สว่างแก่เราแล้ว แต่ว่าเราเอาไปซ่อนไว้เสีย แสงสว่างนั้นเราไม่ใช้ ยัง
ใช้ของเดิม คือ อวิชชา ไม่ใช้ปัญญา เราก็เลยกลายเป็นคนเชื่อง่าย
เชื่อดายเกินไปในเรื่องอะไรๆ ต่างๆ ดังที่ปรากฏอยู่ทุกวันทุกเวลา นั่น
เพราะขาดศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา เราเรียกตัวเราว่า เป็นพุทธ
บริษัท ก็ต้องมีปัญญากำกับ คือต้องคิดให้เกิดปัญญา อย่ารับอะไร
ง่ายๆ อย่าคิดอะไรง่ายๆ ได้ฟังอะไร ได้อ่าน ณ ที่ใด หรือมีอะไรเกิด
ขึ้น อย่าเชื่อก่อน พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าอย่าเชื่อก่อน ให้รับมาคิด
มาตรองเท่านั้นเอง
แม้คำที่พระองค์สอน ก็ทรงเตือนว่า “อย่าเชื่อก่อน จงเอาไป
คิดให้เข้าใจด้วยตัวเธอเอง”
ไม่มีศาสดาไหนในโลกที่จะสอนอย่างนี้ ไปอ่านดูในคัมภีร์ต่างๆ
ไม่มี มีแต่สอนให้เชื่อๆ ถ้าไม่เชื่อก็เป็นบาป เป็นโทษไปเลยทีเดียว แต่
พระพุทธเจ้านี่สอนไม่เหมือนใคร คือไม่สอนให้เชื่ออย่างนั้น แต่ให้ใช้
ปัญญาพิจารณาอย่างรอบคอบ จนเห็นชัดด้วยตัวเองแล้วจึงเชื่อ มัน
เป็นหลักความเชื่อที่ถูกต้องประกอบด้วยปัญญาจริงๆ ไม่มีคำสอนใน
ศาสนาใดสอนอย่างนี้ ไม่มีครูอาจารย์ใดที่จะบอกศิษย์อย่างนี้
18 ปั จ จุ บั น ข ณ ะ คื อ แ ส ง ส ว่ า ง