Page 146 -
P. 146
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2-13
“ เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากปาไมเปนทรัพยากรธรรมชาติที่
สําคัญยิ่งของชาติ และรัฐบาลไดกําหนดจุดหมายไวในแผนพัฒนาการเศรษฐกิจแหงชาติวาจะสงวนปาไมไว
เปนเนื้อที่ประมาณรอยละ 50 แหง เนื้อที่ประเทศไทย คือ เปนเนื้อที่ปาสงวนรวมประมาณ 250,000
ตารางกิโลเมตร หรือ 156 ลานไร
บัดนี้ ปรากฎวาปาไมที่สงวนคุมครองไวแลว และที่ยังมิไดสงวนคุมครองไดถูกบุกรุก
และถูกทําลายไปเปนจํานวนมาก แมปาไมในบริเวณตนน้ําลําธารก็ถูกแผวถางเผาทําลายไปเปนอัน
มาก ซึ่งอาจเปนเหตุใหเกิดความแหงแลง พื้นดินพังทลาย ลําน้ําตื้นเขินหรือเกิดอุทกภัย อันเปนผล
เสียหายแกการเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศอยางรายแรง ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายวาดวยการ
คุมครองและสงวนปาที่ใชบังคับอยูวิธีการไมรัดกุมเหมาะสมตองเสียเวลาดําเนินการเปนเวลานานจึง
ประกาศกําหนดเปนปาสงวนหรือเปนปาคุมครองได เปนเหตุใหบุคคลบางจําพวกฉวยโอกาสทําลาย
ปาไดกวางขวางยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ไดกําหนดโทษผูฝาฝนไวไมเหมาะสมกับกาลสมัย ผูกระทําผิด
ไมเข็ดหลาบ เปนชองทางใหมีการบุกรุกทําลายปามากขึ้น รัฐบาลจึงเห็นเปนการจําเปนอันรีบดวนที่
จะตองดําเนินการปรับปรุงกฎหมายเรื่องนี้เสียใหม เพื่อใหสามารถดําเนินการคุมครองปองกันเพื่อ
รักษาไวซึ่งทรัพยากรธรรมชาติอันมีคาของชาติ และเพื่อมิใหอาชีพเกษตรกรรมของประชาชนสวน
ใหญและเศรษฐกิจของประเทศถูกกระทบกระเทือนจากผลของการทําลายปา”
2.4.2 นโยบายในชวงแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ 2510-2514)
นโยบายการอนุรักษพื้นที่ปาไมและเหตุการณที่สําคัญในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแหงชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510-2514)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510-2514) ไดกําหนดแผนการ
อนุรักษพื้นที่ปาไมไวในบทที่ 9 การเกษตรและสหกรณ โดยมีแนวทางพัฒนาในขอ 5.10 ดังนี้
“5.10 การปาไม เนนหนักการอนุรักษปาไมตนนํ้าลํา ธารและที่มีคุณคาทาง
เศรษฐกิจ โดยจะพยายามรักษาเนื้อที่ปาไมไวใหไดประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อที่ประเทศ ดําเนินการวิจัยการ
บํารุงรักษาปาและการใชผลิตภัณฑไมใหไดผลดียิ่งขึ้น และขยายงานปลูกปาใหไดผลสูงขึ้นกวาในปจจุบัน
การเพิ่มหนวยปองกันรักษาปามีความจํา เปนอยางยิ่ง”
ทั้งนี้ไดกําหนดโครงการที่จะดําเนินการไวในขอ 16 ดังนี้
“16. ขยายงานปองกันรักษาปาไมใหมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยตั้งหนวยปองกัน
รักษาปาเพิ่มขึ้นอยางนอย 100 หนวยภายในระยะของแผน จัดใหหนวยมีเจาหนาที่ พาหนะ และอุปกรณ
ตามความจําเปน โดยตั้งขึ้นในทองที่ภาคเหนือที่มีปาไมสักหรือปาตนนํ้าลําธาร หรือปาอื่นๆ ที่ยังสมบูรณ
และลอแหลมตอการถูกบุกรุกทําลายเปนอันดับแรก สําหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะจัดตั้งหนวยพัฒนา
ปาไมเพื่อชวยฟนฟูปาที่ทรุดโทรมใหมีสภาพเปนปาที่ถาวรตอไป ในดานการสงวนปาจะทําการสงวนปาใหได
ปละ 100 ปาเนื้อที่ประมาณ 30,000 ตารางกิโลเมตร และดําเนินงานจัดปาคุมครองใหเปนปาสงวน
แหงชาติตามบทเฉพาะกาลใหเสร็จอีก 266 ปา พื้นที่ประมาณ 30,500 ตารางกิโลเมตร ปรับปรุงวิธีบํารุง
และจัดการปาไมใหมีประสิทธิภาพและเปนผลดียิ่งขึ้น โดยนํา วิธีการที่ทันสมัยมาใชจัดการปาไมปละ
ประมาณ 10 ปาซึ่งจะทําใหปาไมมีกลังผลิตสูงขึ้น และสามารถอํา นวยประโยชนทั้งทางตรงและทางออม
โดยสมบูรณและสมํ่าเสมอตลอดไป ในดานการปลูกสรางสวนปาจะดํา เนินการใหเร็วขึ้น คือปลูกปาไมสักให
ไดปละไมต่ํา กวา 15,000 ไร และ ไมกระยาเลยอีก ไมต่ํากวา 10,000 ไร นอกจากนี้ยังมีโครงการสงวน
และคุมครองสัตวปา โดยจัดตั้งเขตรักษาพันธุสัตวปาอีกปละ 1 เขตเปนอยางนอย จัดตั้งอุทยานแหงชาติ