Page 25 -
P. 25

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว









                   สารจาก


                   ศาสตราจารย์ระพี สาคริก


                   ปราชญ์เกษตรแห่งแผ่นดิน และอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พ.ศ. 2518 - 2522)


                       มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ขอให้ผมเขียนแสดงความยินดี     ท่านศาสตราจารย์อินทรี จันทรสถิตย์ ได้ขอร้องให้อาจารย์
                   ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครบรอบ 72 ปี ผมนึกถึง  ดร.อัจฉรา นวจินดา และอาจารย์ ดร.ขจีจรัส ภิรมย์ธรรมศิริ
                   สูตรพีชคณิตที่ว่าด้วยเรื่อง “ความเป็นไปได้”     ทำาวิจัยเรื่อง “เกษตรศาสตร์ของแผ่นดิน” ผมจำาได้ว่าผลงานวิจัย
                       ก่อนที่จะทำาอะไรก็แล้วแต่ ใจเราต้องมีความเป็นกลางให้ได้  ครั้งนั้นได้ปรากฏออกมาเป็นความจริงอย่างไร ทุกคนคงจำาได้ดี
                   เสียก่อน ความเป็นกลางนั้นถ้าจะพูดว่ามีประเด็นซึ่งมีความเป็นไปได้     สิ่งนั้นไม่ใช่หรือที่ปรากฏเป็นผลงานอันแท้จริงของมหาวิทยาลัย   21
                   อยู่อย่างครบถ้วน เช่น สมมติให้ ก เป็นเรื่องหนึ่ง ข เป็นเรื่องหนึ่ง   เกษตรศาสตร์ซึ่งทุกคนควรภูมิใจอย่างที่สุดแล้ว หลักธรรมได้ชี้ไว้ว่า
                   และ ค เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเอา ก ข ค มาผสมกันแล้ว เราควรจะ  “สิ่งใดก็ตามเมื่อขึ้นสูงสุดแล้วก็ย่อมลดลงมาสู่ตำ่าสุดเป็นธรรมดา”
                   ได้รับผลอย่างครบถ้วนซึ่งมีทั้งดีและไม่ดีอยู่ด้วยกัน     เพราะฉะนั้นจึงขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา
                       ความดีความไม่ดีนั้นเราจะโทษใครไม่ได้ และจะชมใครก็  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อย่าได้ท้อถอย ความดีความไม่ดีเป็น
                   ไม่ได้อีกนั่นแหละ ทั้งนี้มันอยู่ที่คุณสมบัติของคนซึ่งเป็นผู้นำา  ของธรรมดาที่อยู่ร่วมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจริงซึ่งอยู่ในจิตใจ
                   ในการพัฒนา ดังเช่นที่โบราณได้กล่าวฝากไว้ว่า “ถ้าหัวไม่ส่าย   มนุษย์ผู้เกี่ยวข้องโดยแท้ ขอให้ทุกคนจงประสบแต่ความโชคดี
                   หางก็ย่อมไม่กระดิก”                             ตลอดไป                                                                  72 ปี เกษตรศาสตร์ พิพัฒน์แผ่นดินไทย        สารแสดงความยินดี
                       เพราะฉะนั้นมาถึงบัดนี้ เกษตรศาสตร์อายุได้ 72 ปีแล้ว ถ้านับ
                   ถอยหลังก็เพราะต้องการรู้ว่าในอดีตนั้นมีความเป็นมาอย่างไร
                       คนในเกษตรศาสตร์เคยอยู่อย่างรู้เหตุรู้ผลหรือเปล่า ถ้ารู้แล้วก็
                   ต้องมองออกไปอีกว่าสามารถนำาไปปฏิบัติตามเหตุและผลหรือไม่
                   ถ้ามีเหตุมีผลซึ่งสมควรแก่การยอมรับนับถือ สิ่งนั้นน่าจะเป็นผลดี
                   ซึ่งทุกคนควรให้การยกย่องสรรเสริญ แต่ถ้านำาไปปฏิบัติแล้วเกิด
                   การตกตำ่า เราก็ควรยอมรับด้วยว่าจะต้องร่วมกันพัฒนาให้มันดีกว่านี้
                       เรื่องมหาวิทยาลัยนั้น แท้จริงแล้วก็คือเรื่องความเป็นมนุษย์
                   นั่นเอง โดยเฉพาะเกษตรศาสตร์จำาเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนควรมี
                   วิญญาณเกษตรกรรม เพราะเกษตรกรรมคือการปฏิบัติที่ลงถึงพื้นดิน
                   อย่างมีความสุข
                       ถ้าประชากรในเกษตรศาสตร์มีวิญญาณด้านเกษตรกรรมจริง
                   ผลิตผลจากการเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรกรรมย่อมนำาบุคลากรลงไปสู่
                   พื้นดิน และทำางานอย่างมีความสุข
                       ผมใคร่ขอร้องให้ทุกคนหวนกลับไปนึกถึงช่วงซึ่งมหาวิทยาลัย
                   เกษตรศาสตร์มีอายุครบ 60 ปี ในช่วงนั้นศาสตราจารย์อินทรี
                   จันทรสถิตย์ ซึ่งดำารงตำาแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
                   ถึงสองครั้งสองหน  เนื่องจากเกษตรศาสตร์เกิดเรื่องใหญ่ ทำาให้                (ศาสตราจารย์ระพี สาคริก)
                   ท่านผู้นี้จำาต้องเข้ามารับงานอีกครั้งหนึ่ง
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30