Page 223 -
P. 223

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

                                                                                        อุตุนิยมวิทยา  205








                            บริเวณแถบศูนย์สูตรนั้นได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์มากจึงมีอุณหภูมิสูงและมีความดัน
                       อากาศต ่า  มีลมอ่อนแปรปรวนและลมสงบ  ซึ่งเรียกบริเวณนี้ว่า  บริเวณดอลดรัม  (Doldrums)

                       อากาศร้อนที่ลอยขึ้นสู่ชั้นโทรโพสเฟียร์จะเย็นลงแล้วกลั่นตัวแยกไอน ้าออก จากนั้นถูกพัดพาให้ไป
                       และจมลงที่ละติจูด 30 องศา จึงเกิดความดันอากาศสูง เรียกบริเวณนี้ว่า บริเวณละติจูดม้า (Horse

                       Latitude) และอากาศไหลย้อนกลับมาบริเวณศูนย์สูตร เนื่องจากแรงโคริออลิส ท าให้เกิดลมสินค้า


                       (Trade Winds) พัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือในซีกโลกเหนือ และพัดจากทิศตะวันออกเฉียงใต้
                       ในซีกโลกใต้  อากาศบางส่วนจะพัดจากบริเวณละติจูดม้าไปยังขั้วโลกเป็นลมแน่ทิศตะวันตก


                       (Prevailing Westerly) ลมนี้จะเคลื่อนที่เข้าสู่บริเวณขั้วโลก ซึ่งมีอากาศเย็นจึงเกิดความกดอากาศสูง
                       และมีลมที่พัดมาจากบริเวณขั้วโลกเป็นลมตะวันออก (Polar Easterlies) จะมาปะทะกับลมตะวันตก
                       ที่ละติจูด 60 องศา จึงเรียกบริเวณนี้ว่า บริเวณแนวปะทะขั้วโลก (Polar Front)


                            จากการวิเคราะห์อุณหภูมิของโลกโดยตัดปัจจัยทางภูมิศาสตร์ เช่น แนวเขาและการปรับแก้

                       อุณหภูมิเป็นอุณหภูมิที่วัดที่ระดับน ้าทะเล พบว่า เส้นชั้นอุณหภูมิ (Isothermal line) จะขนานไปใน

                       แนวทิศตะวันออก-ตะวันตก และแนวโน้มของอุณหภูมิบริเวณซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้จะลดลง
                       เมื่อละติจูดสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เส้นชั้นอุณหภูมิของแนว (polarfronts) ในซีกโลกใต้จะเป็นเส้นขนาน

                       มากกว่าในซีกโลกเหนือ  เพราะซีกโลกใต้ส่วนใหญ่จะเป็นมหาสมุทรท าให้ไม่เกิดอิทธิพลของการ
                       รับและคายความร้อนของแผ่นดินกับทะเล  ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิสูงสุดของโลกจะอยู่บริเวณ
                       ทะเลทรายในเขตกึ่งเขตร้อน  (Subtropical)  ของซีกโลกเหนือ  บริเวณพายุหมุนถึงเขตร้อน


                       (Subtropical anticyclone) จะมีอิทธิพลท าให้อากาศแจ่มใส อุณหภูมิสูง ความชื้นต ่า ค่าเฉลี่ยของ
                       อุณหภูมิต ่าที่สุดจะเกิดบริเวณทวีปแอนตาร์คติก  (Antarctic)  บางฤดูกาลมุมของแสงแดดเกือบ

                       ขนานหรือขนานกับผิวพื้น ท าให้ไม่มีความร้อนตกลงถึงพื้น ดังนั้นบริเวณนี้จึงมีอุณหภูมิต ่าและมี

                       หิมะปกคลุมตลอด  ซึ่งหิมะสะท้อนพลังงานในช่วงคลื่นแสงถึง ร้อยละ 80(albedo  80%)  ท าให้
                       อุณหภูมิต ่ามากโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวบริเวณขั้วโลกจะมืดตลอดวัน

                            ปริมาณฝนรายปี ของพื้นที่ต่างๆ  ทั่วโลกได้รับอิทธิพลจากแหล่งที่มาของมวลอากาศ


                       โดยเฉพาะลักษณะการหมุนเวียนของอากาศ (General Circulation) ทิศทางของแนวเขาและความ
                       สูงของที่ราบสูงต่างๆ


                            1. การหมุนเวียนของอากาศท าให้มีลักษณะฝนเหมือนกันทั้งซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้

                       ได้แก่ ฝนตกทุกฤดู บริเวณเส้นศูนย์สูตร บริเวณแนวปะทะอากาศโซนร้อน ฝนตกในฤดูร้อนและ

                       ฝนแล้งในฤดูหนาวบริเวณเขตร้อน  ฝนตกในฤดูหนาวและฝนแล้ง  ในฤดูร้อน  บริเวณความดัน
                       อากาศสูงกึ่งเขตร้อน (Subtropical high) ฝนตกทุกฤดู บริเวณแนวปะทะอากาศขั้วโลก (Polarfront)

                       แห้งแล้งทุกฤดู บริเวณขั้วโลก (Polar high)
   218   219   220   221   222   223   224   225   226   227   228