Page 168 -
P. 168
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทักษะการแปลภาษาจีนเป็นภาษาไทย
5. การวางต าแหน่งของเวลาในประโยคภาษาจีนและ
ภาษาไทยแตกต่างกัน โดยปกติภาษาไทยจะวางเวลาไว้หน้าหรือ
หลังประโยค เช่น “เมื่อวานฉันไปหอสมุด” หรือ “ฉันไปหอสมุดเมื่อ
วาน” ในขณะที่ภาษาจีนจะวางเวลาไว้หน้าหรือหลังประธาน คือ
昨天我去了图书馆。หรือ 我昨天去了图书馆。ผู้เริ่มเรียน
ภาษาจีนมักจะพลาดด้วยการเอาเวลาไปวางไว้ท้ายประโยคเหมือน
ภาษาไทย เช่น “วันนี้ฉันไม่กลับบ้าน จะกลับพรุ่งนี้” วางผิดเป็น
我今天不回学校,再回明天。ซึ่งตามไวยากรณ์ที่ถูกต้องคือ
我今天不回学校,明天再回。เมื่อเรียนภาษาจีนถึงระดับกลาง
และสูง ปัแหาจะกลับกัน คือ เมื่อพูดหรือเขียนภาษาจีน วาง
ต าแหน่งของเวลาไว้หน้าหรือหลังประธาน แต่เมื่อแปลภาษาจีนเป็น
ภาษาไทย กลับติดความเคยชิน โดยน าเวลามาวางไว้หลังประธาน
เช่น “ฉันวันนี้ไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยกลับ” ซึ่งควรจะแปลวา “วันนี้
ฉันไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”
6. ในภาษาจีนมีการน าเวลามาขยายค านาม เช่น 晚上八点
的电影、下午两点的会议、二十岁的我 ผู้แปลมักไม่แน่ใจว่า
จะจัดการอย่างไร เพราะในภาษาจีนใช้เพียงค าว่า 的 เป็นค าช่วย
ระหว่างบทขยายนามกับค านาม จะใช้ค าว่า “ของ” ก็ไม่ถูกต้อง
เพราะไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าของ การแปลค านามที่ขยายด้วยเวลา
ลักษณะนี้ต้องมีการเติมข้อความที่แสดงถึงจุดเริ่มต้นเวลาลงไป เช่น
“ภาพยนตร์รอบสองทุ่ม” “การประชุมซึ่งเริ่มต้นเวลาบ่ายสอง” “ฉัน
ซึ่งขณะนั้นอายุยี่สิบปี”
บทที่ 7 การแปลประโยคที่มีตัวเลข เวลาและมาตราชั่ง ตวง วัด 161