Page 20 -
P. 20
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 (มกราคม-มิถุนายน 2555) 9
ความที่ยกมาข้างต้น นอกจากจะกล่าวถึงธรรมเนียมการล้างเท้าก่อนเข้า
เรือนแล้ว ยังกล่าวถึงต าแหน่งที่ประทับของพระพุทธเจ้าและและต าแหน่งที่นั่งของ
คณะสงฆ์ จากข้อความว่า “เสด็จเข้าไปในเรือน และประทับนั่งพิงเสากลาง ผินพระ
พักตร์ไปทางทิศบูรพาภิกษุสงฆ์...นั่งพิงฝาด้านหลัง ผินหน้าไปทางบูรพา แวดล้อม
พระผู้มีพระภาคผู้ประทับอยู่เบื้องหน้า” พระพุทธเจ้าประทับนั่งพิงเสากลางอยู่เบื้อง
หน้าพระภิกษุรูปอื่นๆ ที่นั่งพิงฝาแวดล้อมพระพุทธเจ้าอยู่เบื้องหลัง พระพุทธเจ้า
และหมู่สงฆ์จะผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ต าแหน่งทิศทางการนั่งของ
พระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ส่งอิทธิพลมาถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากการตั้งที่
สักการบูชาพระรัตนตรัย จะตั้งพระพุทธรูปหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ซึ่ง
ถือเป็นทิศที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ หรือไม่ก็สามารถ
อนุโลมให้หันไปทางทิศเหนือ ดังที่พระธรรมวโรดม (2538: 77) ได้กล่าวไว้ว่า
โต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัย นิยมจัดตั้งไว้ด้านขวาของอาสนสงฆ์
ตั้งไว้สูงกว่าอาสนสงฆ์พอสมควร และนิยมตั้งหันหน้าไปทางทิศ
ตะวันออก เพราะเป็นทิศที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งตรัสรู้พระ
อนุตตรสัมโพธิญาณส าเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าขัดข้องเพราะ
สถานที่ไม่อ านวย ก็นิยมตั้งหันหน้าไปทางทิศเหนือ หรือทิศใต้
ทิศใดทิศหนึ่ง แต่ไม่นิยมตั้งหันไปทางทิศตะวันตกเพราะถือกัน
ว่า ทิศตะวันตก เป็นทิศอัศดงคตแห่งพระอาทิตย์เป็นทิศแห่ง
ความเสื่อม ไม่เจริญรุ่งเรือง
จะเห็นได้ว่าธรรมเนียมการต้อนรับพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ในสมัย
พุทธกาล ยังคงปฏิบัติสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หากแต่ธรรมเนียมบางประการก็
แตกต่างไปจากสมัยพุทธกาลเนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป