Page 45 -
P. 45

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                              บทที  2 การตรวจสอบเอกสาร                  13


                   จนกระทั งในปี 2554 มีราคาสูงที สุด 129.25 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีอัตราการเติบโตของราคายางพารา

                   ระหว่างปี 2542 – 2554 ร้อยละ 19.31 ต่อปี แต่หลังจาก ปี 2554 ราคายางกลับปรับตัวลดลงอย่าง
                   รุนแรงมาอยู่ที ราคาเฉลี ย 74.89 บาทต่อกิโลกรัม ในปี 2556 และราคายางยังคงปรับลดลงอย่าง

                   ต่อเนื อง โดยในปี 2558 ราคายางแผ่นดิบชั น 3 ราคาลดลงเหลือ 45.24 บาทต่อกิโลกรัม มีอัตราการ

                   หดตัวของราคายางพาราระหว่างปี 2554 – 2558 ร้อยละ 22.88 ต่อปี (สมบูรณ์ เจริญจิระตระกูล และ

                   คณะ, 2559)



                          140                                                       129.25

                          120
                                                                                103.97
                          100                                          77.23             90.63
                        บาท/กิโลกรัม  80                  53.15  69.51  69.76                74.89  55.05


                           60
                                                 38.53  44.9               57.18                      45.24
                           40                27.57
                                   22.07  21.16
                           20  18.15

                            0
                               2542 2543 2544 2545 2546 2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558

                   ภาพที  2.1 ราคายางแผ่นดิบชั น 3 รายปี ณ ตลาดท้องถิ นหาดใหญ่ ปี 2542 - 2558

                   ที มา : การยางแห่งประเทศไทย, 2559

                           2.1.4 การเปลี ยนแปลงของภาคเกษตรที เกี ยวข้องกับการทําสวนยาง

                          นับตั งแต่ปี 2543 - 2555 ราคายางอยู่ในภาวะราคายางบูมดังที กล่าวข้างต้น ส่งผลต่อการ

                   ขยายพื นที ปลูกยางใหม่อย่างรวดเร็วในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักลงทุนและบริษัทธุรกิจ

                   เกษตรเข้ามาเป็นผู้ปลูกยางรายใหม่ เจ้าของสวนยางรายใหม่เหล่านี ต้องแข่งขันกับเกษตรกรรายย่อย
                   ในการใช้ปัจจัยที ดินและแรงงาน ประกอบกับผลลัพธ์ของการพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ

                   เศรษฐกิจเหล่านี ส่งผลให้กําลังแรงงานส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเขตเมืองและภาคอุตสาหกรรม

                   วิวัฒนาการนี อาจจะนําไปสู่การเปลี ยนรูปของโครงสร้างระบบเกษตร (structure of agricultural

                   system) แนวโน้มความเป็นไปได้อย่างหนึ งคือ โครงสร้างการผลิตภาคเกษตรอาจจะเกิดการกระจุกตัว

                   ของการถือครองที ดินโดยฟาร์มขนาดใหญ่และบริษัทธุรกิจเกษตร ซึ งจะมีสัดส่วนการใช้แรงงาน
                   น้อยลงและใช้เครื องจักรกลมากขึ น (Deininger and Byerlee, 2012) นั นคือ ปรากฏการณ์การ

                   เคลื อนย้ายแรงงานจากแรงงานครัวเรือนไปเป็นแรงงานรับจ้างในธุรกิจเกษตรอาจจะพบได้มากขึ น

                   อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนเกษตรขนาดเล็กยังคงมีความสามารถในการแข่งขัน เนื องจากความสัมพันธ์

                   ที ผกผันกันระหว่างขนาด (size) และผลิตภาพ (productivity) รวมทั งการพัฒนากลยุทธ์เฉพาะ
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50